“วรวรรณ” นั่งนายกสมาคม บลจ. ดันอุตสาหกรรมแข่งบริษัทข้ามชาติ

“วรวรรณ ธาราภูมิ” นั่งตำแหน่งนายกสมาคม บลจ. เร่งผลักดัน 4 ประเด็นหลักเตรียมแข่งขันอุตสาหกรรมการลงทุน หลังบริษัทข้ามชาติเริ่มขยับตัวเข้ามาลงทุนในไทยและภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น พร้อมพัฒนาอุตสาหกรรมกองทุนให้ทัดเทียมต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือ AIMC ในปี 2557 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง ได้ขึ้นเป็นนายกสมาคม บลจ.อีกครั้ง โดยระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนี้จะมีวาระ 2 ปี

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ในฐานะนายกสมาคม บลจ. และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นและปรับปรุงให้มีคุณภาพได้แก่ 1. โครงสร้างการลงทุนของโลกที่เปลี่ยนไป (Global Architecture) ซึ่งการแข่งขันในด้านธุรกิจการลงทุนนั้นมีการแข่งขันในระดับโลกมากขึ้นไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันกันในประเทศ หรือภูมิภาคเท่านั้น ซึ่งหากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ในแง่ของบุคลากร รวมถึงเรกูเลเตอร์อื่นๆ ก็จะโดนดึงไปทำให้อุตสาหกรรมเกี่ยวกับธุรกิจการลงทุนจะมีการแข่งขันที่ดุเดือด ทั้งนี้เราคงจะต้องปรับและมีการลงทุนในสมาชิกของสมาคมให้มีความสามารถในการแข่งขันครั้งนี้ได้

นอกจากนี้เราจะมีการผลักดันให้ไทยมีมาตรฐานเดียวกันกับต่างประเทศ เช่น ความร่วมมือด้านภาษีอากรระหว่างประเทศ และการปฏิบัติตามกฎหมายให้รายงานธุรกรรมทางการเงินบุคคลสัญชาติสหรัฐอเมริกาที่อยู่นอกประเทศ ซึ่งมีผลประโยชน์ทางภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐฯ ซึ่งหากสหรัฐฯ ทำได้ประเทศไทยก็ต้องทำให้เกิด FATCA ได้ เป็นต้น

ในประเด็นที่ 2 ที่เราจะผลักดันกันต่อนั้นก็คือ บทบาทอุตสาหกรรมกองทุนในตลาดทุน ซึ่งในฐานะที่เราเป็นผู้ลงทุนสถาบันเราต้องรักษาและเพิ่มพูนสิ่งดีๆ รวมถึงการผลักดันเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชัน รวมถึงการผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาล และเชื่อมโยงการติดต่อในตลาดทุนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน

“เร็วๆ นี้ทางสมาคม บลจ.จะมีการเข้าไปหารือและพูดคุยกับสรรพากรในหลายๆ ประเด็นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องภาษีของกองทุน LTF ที่จะหมดอายุเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันเรารอให้ฝ่ายการเมืองมีความชัดเจนก่อน หลังจากนั้นก็จะมีการพูดคุยปรึกษาหารือในแง่ Investment"นางวรวรรณกล่าว

นางวรวรรณกล่าวต่อว่า ในประเด็นที่ 3 และ 4 นั้นก็คือ 3. บทบาทของสมาคม บลจ.ต่อผู้ลงทุนและสาธารณชน โดยเราจะเน้นให้ความรู้ด้านการลงทุนให้แก่ประชาชน และ 4. บทบาทของกลุ่มสมาชิกด้วยกันเอง เช่นการปรับปรุงให้สมาชิกมีความทันสมัยให้เทียบเท่ากับ Global Architecture รวมถึงโครงสร้างของสมาคมและการแข่งขันในธุรกิจของอุตสาหกรรมกองทุนโดยเฉพาะเรื่องค่าธรรมเนียม

“สำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมกองทุนในปีนี้เราประเมินว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 10% ซึ่งน่าจะเติบโตจากกองทุนตราสารหนี้และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมจะเติบโตได้มากกว่า 10% น่าจะมาจากปัจจัยเหตุการณ์ภายในประเทศที่จะชัดเจนมากขึ้นกว่านี้”

“วรวรรณ” มองการเมืองจบยาก

นางวรวรรณ ให้ความเห็นในเรื่องปัญหาการเมืองไทยว่า “ในความคิดเห็นส่วนตัวเรายังมองไม่ออกว่าการเมืองไทยจะเดินไปในทิศทางไหน จะจบภายในครึ่งปีแรกหรือไม่ รัฐเองก็ต้องมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันจะมีผลกระทบอย่างไรต่อประเทศ ในขณะที่การชุมนุมของกลุ่มการเมืองเองก็ต้องทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น จะมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน จะมีการเกิดการเข่นฆ่าเกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ปัญหาทุกอย่างมันก็จะอยู่ในวังวนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการคอร์รัปชัน การเล่นพรรคเล่นพวกโดยการให้พวกตัวเองไปนั่งอยู่ตำแหน่งสำคัญๆ ของประเทศ คิดว่าก่อนการเลือกตั้งต้องมีการปฏิรูปประเทศเสียก่อน”