วิริยะประกันภัยชี้ตลาดประกันวินาศภัยซบ ปีนี้โตแค่ 5% โดยเฉพาะรถยนต์หลังเศรษฐกิจชะลอ-อวสานมาตรการรถคันแรก ลั่นขอโต 8-9% แซงอุตสาหกรรม เน้นเพิ่มอัตราต่ออายุกรมธรรม์เพิ่มเป็น 70% ขณะเดียวกันเล็งเพิ่มพันธมิตรเจาะตลาด AEC มากขึ้น
นายอานนท์ โอภาสพิมลธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัยจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยทั้งระบบในปีนี้ 2557คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 5% หรือคิดเป็นมูลค่าเบี้ยประมาณกว่า 213,150 ล้านบาท จากฐานเบี้ยประกันภัยของปี 2556 ที่มียอดเบี้ยรับประกันรวมอยู่ที่ 203,000 ล้านบาท ซึ่งในปีที่ผ่านมาเบี้ยประกันรับรวมของอุตสาหกรรมนั้นเติบโตประมาณ 13.2%
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทวิริยะประกันภัยตั้งเป้าการเติบโตของเบี้ยประกันภัยเอาไว้ที่ประมาณ 8-9% จากฐานเบี้ยประกันรับรวมในปี 2556 ที่ทำได้ 33,983 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตในระดับนี้ถือเป็นการเติบโตในระดับปกติ หลังจากที่ขาดการกระตุ้นจากมาตรการรถยนต์คันแรก โดยจะให้น้ำหนักการขยายตัวในสัดส่วนเดิมคือ 91% จะเป็นเบี้ยจากรถยนต์ และอีก 9% เป็นเบี้ยจากการประกันภัยประเภทนอนมอเตอร์
“ในปีนี้ตลาดการประกันภัยโดยเฉพาะรถยนต์น่าชะลอตัวและเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งยอดขายรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าตกลงไปเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยการเมืองเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยในปีนี้การที่เราจะเติบโตได้นอกจากเบี้ยใหม่แล้วการเพิ่มระดับการต่ออายุกรมธรรม์จะเป็นตัวแปรสำคัญเหมือนกัน โดยจากเดิมเราอยู่ที่ประมาณ 65% แต่ปีนี้คาดว่าน่าจะทำได้ถึงระดับ 70%”นายอานนท์กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา นายอานนท์กล่าวว่า ในปี 2556 บริษัทมีเบี้ยประกันรับรวม 33,983.11 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 21.45% ในจำนวนนี้เป็นเบี้ยประกันจากรถยนต์ถึง30,939 ล้านบาท เติบโต 21.11% จากจำนวนลูกค้า 5 ล้านฉบับ ประกันภัยนอนมอเตอร์ 3,043 ล้านบาท เติบโต 25% จากจำนวนลูกค้า 1.9 ล้านฉบับ ส่งผลให้บริษัทมีจำนวนลูกค้าทั้งหมด 11.9 ล้านฉบับ
ณ สิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์อยู่ที่ 49,386 ล้านบาท มีเงินกองทุน 21,810 ล้านบาท มีอัตราการดำรงเงินกองทุน 275% เพิ่มจากปีก่อนที่มีอยู่แค่ 248% ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 140% เท่านั้น ขณะที่พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท มีผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.83% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเงินปันผล โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,658 ล้านบาทซึ่งเติบโตใกล้เคียงกับปี 2555 ส่วนยอดการเคลมสินไหมทดแทนในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 820,000 เคลม คิดเป็นมูลค่าสินไหมประมาณ 15,000 ล้านบาท
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า สำหรับการขยายตลาดเพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียนนั้น บริษัทไม่มีแนวคิดที่จะเข้าไปลงทุนโดยตรงเนื่องจากบางที่ยังคงติดในเรื่องของกฎหมาย โดยเบื้องต้นบริษัทจะเน้นการหาพันธมิตรเพื่อทำธุรกิจรวมกันมากกว่า โดยในปีที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศลาวทำประกันข้ามแดน และในปีนี้จะขยายความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้านรายอื่นต่อไป เช่น มาเลเซีย รวมทั้งอาจจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับการให้บริการสินไหม การแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย