บลจ.กรุงศรี ลั่นAUMแตะ2.4 แสนล้านบาท เดินหน้ารุกตลาดกองหุ้น”LTF-RMF”หลังผลงานแจ่ม ปี56โตแซงอุตสาหกรรมเกือบเท่าตัว พร้อมแนะลงทุนตลาดยุโรปรับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น ระบุหุ้นหลายตัวผลประกอบดีแม้เจอวิกฤต
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ที่ 2.4 แสนล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 24% จากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ระดับ1.9แสนล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้ารายย่อย(ไม่รวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ)ให้ได้ถึง 200,000 บัญชี จากเดิมที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 170,000 บัญชี โดยจะเน้นการเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างชัดเจน ผ่านครือข่ายธนาคารกรุงศรีกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ
“การขยายฐานลูกค้ารายย่อยของเราจะชัดเจนในการเลือกกลุ่มลูกค้า และจะพยายามพลักดันให้คนไทยลงทุนให้ถูกต้องตามทฤษฎี เพราะที่ผ่านมาอาจจะเริ่มลงทุนแล้วแต่ยังไม่ถูกต้อง ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจตัวเองก่อน แล้วค่อยเลือกการลงทุนให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้”นายฉัตรพีกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 54,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 28% โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเครือข่าย BTMU (The Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd.) ที่มีความแข็งแกร่งในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น
นายฉัตรพีกล่าวอีกว่า ในปีนี้นอกจากการขยายฐานลูกค้าแล้ว บริษัทยังเน้นการพัฒนาผลการดำเนิงานของกองทุนให้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งกองทุนตราสารทุน และกองทุนตราสารหนี้ โดยจะพยายามมุ่งเน้นในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนของกองทุนหุ้น กองทุน LTF และกองทุน RMF
ทั้งนี้ กองทุน LTF และ กองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทในปีที่ผ่านมา มียอดเงินลงทุนสุทธิสูงเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนใหม่รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และกองทุนหุ้นมียอดเงินลงทุนใหม่กว่า 8,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 83.31% ซึ่งเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเพียง 49.26%
“เราจะรักษาความเป็นผู้นำในผลงานกองทุนหุ้น และจะทำให้กองตราสารหนี้โดดเด่นเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งกองทุน LTF และกองทุน RMF นั้นคนไทยยังใช้ประโยชน์กันไม่เต็มที่ทำให้เราเชื่อว่ากองประเภทนี้น่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก”นายฉัตรพีกล่าว
ส่วนแผนการออกกองทุนใหม่ บริษัทยังคงหาโอกาสใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด นอกเหนือจากการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดระยะเวลาในทุกสัปดาห์ ซึ่งบริษัทมีแผนการออกกองทุนรวมในต่างประเทศเพิ่มเติม เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในหุ้นยุโรป และคาดว่าจะสามารถเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้มากขึ้น
แนะลงทุนยุโรปรับเศรษฐกิจฟื้น
ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า เศรษฐกิจยุโรป มีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของกลุ่มประเทศยูโรโซนบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะฟื้นตัวในอัตราที่สูงขึ้น ในขณะที่ เยอรมนี ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป มีสัญญาณขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีชี้นำต่างๆ ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ต่างปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์และเอสแอนด์พียังมีการปรับอันดับความน่าเชื่อถือของกลุ่มประเทศที่ประสบปัญหาเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ แนวโน้มดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งจากการดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรปยังพบอีกด้วยว่ามีหุ้นอยู่หลายบริษัทที่มีผลประกอบการดีในช่วงที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจ
“หุ้นบางตัวถึงแม้จะจดทะเบียนในสเปนแต่ผลประกอบการดีมาก เพราะเป็นหุ้นที่มีรายได้จากกระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งการคัดเลือกบริษัทในการลงทุนจะเป็นผลดีเ และหุ้นพวกนี้จากข้อมูลที่ดูพบว่า จะได้รับผลกระทบน้อยเมื่อเศรษฐกิจมีปัญหาแต่เมื่อเศรษฐกิจโตจะได้รับประโยชน์มากกว่า”นายประภาสกล่าว