บลจ.แมนูไลฟ์แนะกระจายลงทุนประเทศพัฒนาแล้ว ชี้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้น ชูจุดแข็งกองทุนต่างประเทศในปีที่ผ่านมาดัน AUM ทะยาน 27% มองหุ้นไทยยังผันผวนจากการเมือง
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 5641 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 27.14% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมาจากการลงทุนในกองทุนต่างประเทศเป็นหลัก อย่างกองทุน MS-ASIAN SM โดยกองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 125 ล้านบาทในปี 2555 มาอยู่ที่ 2,353 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1770% ซึ่งมียอดขายในปีที่ผ่านมาประมาณ 2726 ล้านบาท หรือคิดเป็น 87% จากยอดขายทั้งหมด
ส่วนแนวโน้มในปี 2557 นี้บริษัทยังเน้นออกกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนต่างประเทศ และมีความพร้อมทางด้านทีมงานการลงทุนในทั่วโลก เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนไทยในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยผันผวน
ขณะเดียวกันก็เน้นการขยายช่องทางการขายผ่านไพรเวตแบงกิ้ง ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80-85% ขณะที่ตัวแทนขายตรงคิดเป็น 10-15% และตัวแทนอิสระประมาณ 5% นอกจากนี้จะเน้นเรื่องคุณภาพการให้บริการและผู้สนับสนุนการซื้อขาย และการให้ความรู้ ข้อมูลการลงทุน ภาวะตลาดเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
นายต่อ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2557 โดยรวมมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะโตที่ 3.7% ตามการเติบโตของประเทศพัฒนาแล้ว โดยสหรัฐฯ คาดว่าจะโตที่ระดับ 3% จากการบริโภคที่ดีขึ้น ขณะที่ยุโรปน่าจะโตที่ระดับ 0.8% มาจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงการส่งออกและยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 5 เดือนติดต่อกัน
ด้านเอเชีย กลุ่มประเทศในเอเชียอย่างเอเชียเหนืออย่างญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีการเติบโตที่น่าสนใจ จากการส่งออกที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกและราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง
“ดังนั้น ในปี 2557 แนะนำนักลงทุนกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียเหนือ อย่างจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในปีนี้”
ด้านเศรษฐกิจไทย ในปีนี้คาดว่าจะโตประมาณ 3% โดยมีผลกระทบจากปัจจัยทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคและการลงทุน แต่ภาคการส่งออกได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว แต่คาดว่า กนง.น่าจะมีการรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ซึ่งตอนนี้เริ่มมองการฟื้นตัวของไทยไปที่ช่วงครึ่งปีหลัง หากได้รัฐบาลใหม่มาก็คาดว่าความเชื่อมั่นน่าจะกลับมาได้ในช่วงครึ่งหลังของปี
“ตลาดหุ้นไทยตอนนี้จึงมีความผันผวน แต่ไม่น่าจะลงไปต่ำกว่าระดับ 1,300 มากนัก และน่าจะคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ และมีความผันผวนในช่วงระยะสั้นถึงระยะกลาง แต่หากมีการปรับลงแรงก็เป็นโอกาสเข้าลงทุนได้”