xs
xsm
sm
md
lg

คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง : บิ๊กกองทุนรวมลงทุนหุ้น เย็น ยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง
โดย กมลทิพย์ หิรัญประเสริฐสุข
yokbu@hotmail.com

คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง สัปดาห์นี้มีโอกาสได้พบปะสัมภาษณ์ผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต นั่นก็คือ บุญชัย เกียรติธนาวิทย์ ซึ่งเราจะพาไปล้วงลึกเทคนิคการบริหารจัดการเงินในกระเป๋าและพอร์ตการลงทุนของผู้บริหารท่านนี้กัน

คุณบุญชัย เริ่มต้นเล่าให้ทีมงานฟังว่า การบริหารจัดการเงินส่วนใหญ่จะเน้นกระจายการลงทุนเป็นหลัก โดยจะมีทั้ง หุ้น กองทุน และประกันชีวิต ซึ่งก็คล้ายๆ การจัด Asset allocation ที่เน้นการกระจายพอร์ตการลงทุน แต่โดยส่วนใหญ่การลงทุนในกองทุนรวมก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุน ซึ่งจะให้น้ำหนักการลงทุนในส่วนนี้มากพอสมควร และเลือกที่จะให้สิทธิในการลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุนในกองทุนรวมด้วยเช่นกัน ส่วนการลงทุนในหุ้นนั้นก็จะเน้นการลงทุนแบบดูพื้นฐานหรือฟันดาเมนทอลเป็นหลัก สำหรับการเลือกประกันชีวิตนั้นจะเน้นให้กรมธรรม์นั้นครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและอุบัติเหตุเป็นหลักมากกว่าที่จะซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีหรือซื้อประกันออมทรัพย์

ในส่วนการวางแผนเกษียณในอนาคตบุญชัย มีวิธีคิดอยู่ 3 ข้อ คือ 1. รู้จักสไตล์การลงทุนของตนเอง 2. คุณภาพชีวิตระหว่างมีเงินเดือนและเกษียณจะต้องไม่แตกต่างกันมาก และ 3. ให้ได้ เช่นเป็นที่พึ่งให้แก่ลูกหลาน รวมถึงใช้ความรู้ของตนเองถ่ายทอดให้แก่คนอื่น อาทิ การสอนหนังสือ และสุดท้ายต้องคืนอะไรให้สังคมบ้าง เช่น ช่วยงานบุญ งานวัด ร่วมทำบุญเพื่อทำนุบำรุงศาสนา เป็นต้น
    
“ผมมองว่าแผนการลงทุนอาจจะไม่เป็นเหมือนที่คิด โดยเฉพาะการลงทุนในระยะยาว ซึ่งระหว่างทางอาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ฉะนั้นการเลือกที่จะลงทุนอะไรก็ควรจะมีความยืดหยุ่นและไม่ผูกมัดจนเกินไป และการลงทุนระยะยาวนั้นเราก็ต้องประเมินตนเองด้วยว่ามีกำลังในการลงทุนมากน้อยแค่ไหน”

สำหรับเทคนิคการจัดพอร์ตที่เหมาะสมต่อนักลงทุนในแต่ละสไตล์นั้น บุญชัย ได้ขยายความให้ทีมงานฟังว่า สิ่งที่ควรจะนึกถึงคือเงินที่จะลงทุนนั้นเป็นเงินเย็นหรือไม่ โดยส่วนตัวมองว่าการลงทุนในหุ้นไม่ว่าจะเป็นกองทุนหรือลงทุนเองนั้น หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้โอกาสในการทำกำไรได้มากกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งหากใช้เทคนิคเรื่องของอายุมาจัดการลงทุนนั้นก็แน่นอนว่าอายุยังน้อยก็ควรที่จะลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่มาก เช่นหากอายุ 30 ก็อาจจะจัดพอร์ตลงทุนในหุ้น 90% ตราสารหนี้ 10% และค่อยๆ ทยอยลดหุ้นลงเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งในพอร์ตหุ้นนั้นก็ควรจะกระจายน้ำหนักไปยังหุ้นต่างประเทศด้วยเพื่อลดความเสี่ยง แต่ทั้งนี้หากอายุมากขึ้นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ลงทุนในหุ้นเลย แต่ควรจะมีติดไว้ในพอร์ตด้วยสัก 30%

“ผมเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดี แม้จะมีความผันผวนบ้าง ผมมองว่าหุ้นคือบริษัท เมื่อเป็นบริษัทและเราซื้อความเป็นเจ้าของ เมื่อเวลาผ่านไปบริษัทจะต้องเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเทคนิคในการเลือกซื้อหุ้น และกองทุนหุ้นนั้นต้องเป็นเงินเย็น ลงยาว และต้องเลือกหุ้นให้ถูกประเภท หากเป็นกองทุนก็ต้องเลือกลักษณะการบริหารสไตล์การลงทุนของกองทุน เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ต้องคอยประเมินการลงทุนของเราด้วยว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากเวลาเปลี่ยนไป การลงทุนในสินทรัพย์เดิมอาจจะไม่เหมาะสม ก็อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสินทรัพย์ที่จะไปลงทุนเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง”

คุณบุญชัยทิ้งท้ายว่า ตลาดทุนบ้านเราพัฒนาไปมากพอสมควร มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ให้ลงทุน ทั้งนี้นักลงทุนก็ควรสำรวจโอกาสเข้ามาลงทุน โดยต้องไม่ลืมที่จะติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายๆ คนมองข้ามไป ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่จะมีเรื่องของความผัวผวนและความเสี่ยงเข้ามาด้วย และการลงทุนมีหลากหลายประเภท บางประเภทอาจจะไม่เหมาะต่อการลงทุนยาวๆ หรือบางประเภทเหมาะต่อการลงทุนแบบระยะยาว และที่สำคัญสินทรัพย์บางประเภทก็ให้ผลตอบแทนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ การจัดพอร์ตการลงทุนก็ควรจะมีความหลากหลายด้วยเช่นกัน



กำลังโหลดความคิดเห็น