บลจ.ยูโอบีมองเศรษฐกิจโลกยังเติบโตต่อได้ แนะนักลงทุนควรทยอยลงทุนได้ตั้งแต่ต้นปี 57 ล่าสุดเผยได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนกลุ่มลูกค้าใหม่กว่า 90% จากกองทุนประหยัดภาษี หลังบริหารกองทุน LTF-RMF ติดดาว
นางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ กรรมการผู้จัดการสายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงมุมมองเศรษฐกิจโลกว่า โดยรวมยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ตัวเลข GDP ปี 2556 ที่ 2.9% และ 3.6% ในปี 2557 (ที่มา IMF ณ ต.ค. 2556) ด้านเศรษฐกิจยุโรปเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีสัญญาณบวกจากธนาคารกลางยุโรปปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 0.50 ไปที่ร้อยละ 0.25 พร้อมกับยังคงนโยบายทางการเงินที่จะสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจต่อไป
ด้านเศรษฐกิจไทยในปี 2556 มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าประมาณการ โดยอุปสงค์ชะลอตัวลงในเกือบทุกด้าน อีกทั้งการบริโภคของภาคเอกชนที่มีแนวโน้มพักฐานนานและมากกว่าที่คาด กอปรกับความเชื่อมั่นที่ลดลงทำให้ภาคครัวเรือนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น
ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐก็ลดลงกว่าที่คาด รวมทั้งแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความล่าช้า อย่างไรก็ตาม บลจ.ยูโอบียังคงมีมุมมองที่เป็นบวกในระยะกลางถึงระยะยาวต่อการลงทุน ด้านการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยภาคการส่งออกที่จะเริ่มฟื้นตัวและตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่
อีกทั้งผลประกอบการธุรกิจที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน นักลงทุนสามารถเริ่มทยอยลงทุนได้ตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นต้นไป โดยทีมผู้จัดการกองทุน บลจ.ยูโอบีจะติดตามภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารการลงทุนให้สามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
นางสาวณัชชา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการลงทุนในกองทุน LTF-RMF นั้น ไม่เพียงแต่วัตถุประสงค์เพื่อลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว แต่ท่านยังสามารถได้รับโอกาสจากการลงทุนนั้นๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกกองทุนจะต้องพิจารณาถึงการบริหารกองทุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลังและความผันผวนของกองทุนดังกล่าวควบคู่กันไปด้วย
โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ประมาณ 90% ของจำนวนธุรกรรมทั้งหมด และได้ให้ความสนใจลงทุนใน กองทุนเปิด บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว (CG-LTF), กองทุนเปิด แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF) และกองทุนเปิด Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว (BIG CAP-D LTF)
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ในช่วงเวลาที่เหลือจนถึงสิ้นปีนี้ ภาวะตลาดคงไม่ได้เป็นปัจจัยต่อการตัดสินใจลงทุนมากนัก ปัจจัยที่สำคัญในตอนนี้น่าจะเป็นการเลือกกองทุนที่ท่านจะเข้าลงทุน ทั้งนี้ การเลือกลงทุนใน LTF-RMF นอกจากจะพิจารณาถึงผลตอบแทนที่จะได้รับแล้ว บลจ.ยูโอบีได้แนะนำให้ผู้ลงทุนให้พิจารณาเรื่องปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ด้วย โดยผู้ลงทุนสามารถพิจารณาอัตราผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยงได้จากสถาบันจัดอันดับ Morningstar ซึ่งมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ล่าสุดกองทุน LTF ภายใต้การบริหารของ บลจ.ยูโอบี ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว Morningstar Thailand ถึง 3 กองทุนที่มีผลการดำเนินงานของกองทุนที่โดดเด่น
ในช่วงระยะเวลา 3 ปี และ 5 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ กองทุนเปิด บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว (CG-LTF), กองทุนเปิด แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF), กองทุนเปิด Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว (BIG CAP-D LTF) สำหรับกองทุน RMF นั้น ขอแนะนำกองทุนตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ERMF) ซึ่งได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว (ข้อมูล ณ 30 พ.ย. 56 www.morningstarthailand.com)