แอสเซทพลัสเชื่อ ศก.โลกปีหน้าดี เข็นกองทริกเกอร์ทำกำไร

บลจ.แอสเซท พลัสเผยเศรษฐกิจโลกปีหน้าแจ่ม หลังแนวโน้มครึ่งหลังปี 56 ปรับตัวดี เชื่อเศรษฐกิจไทยปีหน้ามีทิศทางที่ดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลก ล่าสุดเข็นกองทุนเปิด “แอสเซทพลัสทริกเกอร์ 4/4” เน้นเลือกสรรหุ้นไทยรายตัว ตั้งเป้าทยอยจ่ายผลตอบแทน 2 ครั้ง ภายใน 1 ปี ไอพีโอแล้วถึง 20 ก.ย.นี้

นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2557 มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น จากแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังปี 2556 เริ่มปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น โดยปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องคือ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจจีน เพราะหากเศรษฐกิจจีนกระเตื้องขึ้นจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจเอเชียโดยรวม รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางการปรับตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2557 โดยคาดว่าภาคการส่งออกของไทยจะดีขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก กอปรกับยังมีปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว เช่น แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐบาล ซึ่งหากพระราชบัญญัติ 2 ล้านล้านบาทได้ผ่านการประชุมรัฐสภาจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น การย้ายฐานการผลิตของบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นและจีนมายังประเทศไทย รวมถึงการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) ซึ่งจะมีขึ้นในปี 58 จะช่วยส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช่นกัน

ด้านมุมมองต่อเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าจะเติบโตอย่างชะลอตัวลง เนื่องจากภาคการส่งออกที่ลดลงและแรงส่งจากนโยบายภาครัฐบาลในช่วงที่ผ่านมามีผลสนับสนุนเชิงบวกที่ลดลง นอกจากนี้ ในระยะสั้นตลาดยังคงมีความกังวลจากปัจจัยต่างประเทศเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE tapering) ของสหรัฐฯ ที่จะชัดเจนขึ้นภายหลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ และมติสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต่อการใช้กำลังทางทหารกับซีเรีย ตลอดทั้งการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ว่าจะรอผลการหารือขององค์การสหประชาชาติ (UN) ก่อนตัดสินใจใช้กำลังทหารหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม

ดังนั้น บริษัทฯ จึงเล็งเห็นว่าในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน การลงทุนในหุ้นแบบ Stock selection เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมและสามารถตอบโจทย์การลงทุนสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาจับจังหวะการลงทุนในหุ้นด้วยตัวเอง โดยตั้งแต่วันที่ 12-20 กันยายนนี้ บริษัทฯ เสนอขายกองทุนแอสเซทพลัสทริกเกอร์ 4/4 (ASP-TRIGGER4/4) อายุ 1 ปี เน้นลงทุนในหุ้นไทยรายตัวที่ได้รับผลประโยชน์จากภาวะการลงทุนในแต่ละช่วงแต่ละขณะ เช่น หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นำไปสู่การปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนจะ Overweight หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งกองทุนจะเลือกกลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบ Active มากกว่ากองทุนหุ้นทั่วไป เช่น การทำ Sector Rotation, Stock Selection รวมทั้งปรับสัดส่วนหุ้นและเงินสดตามสภาวะที่เหมาะสม

กองทุน ASP-TRIGGER4/4 ตั้งเป้าหมายทยอยจ่ายผลตอบแทน 2 ครั้งใน 1 ปี ซึ่งสอดคล้องกับภาวะตลาดหุ้นปัจจุบันที่มีความผันผวน และเพื่อให้ผู้ลงทุนจะได้มีกระแสเงินสดระหว่างช่วงเวลาการลงทุน ทั้งนี้ กองทุนจะรับซื้อคืนอัตโนมัติบางส่วนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ปรับผ่านระดับ 10.40 บาท และรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดพร้อมเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับผ่าน 10.80 บาท และสามารถขายทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนเป็นเงินสด

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่กองทุนสนใจลงทุนในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐบาล กลุ่มสื่อสาร ที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี 3G กลุ่มปิโตรเคมิคอลที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตต่อเนื่องมาทุกปี

นางลดาวรรณกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ บริษัทฯ แนะนำให้ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นๆ โดยในวันที่ 18 กันยายน 2556 นี้บริษัทฯ จะเปิดเสนอขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ (ASP-TFIXED 8) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทยที่สามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 79 ของสินทรัพย์สุทธิ และเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้กองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ไทย และเงินฝากธนาคารต่างประเทศ อายุประมาณ 6 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 2.90% ต่อปี