นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP เปิดเผยว่า การเปิดจอง IPO ของกองทุนเปิด KTAM SET ICT ETF Tracker หรือ EICT ในระหว่างวันที่ 5-16 ส.ค. 56 ถือเป็นช่วงจังหวะที่ถูกต้องที่สุดแล้ว หลังตลาดหุ้นพักฐานกว่า 120 จุดจากพิษการเมืองและการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถือเป็นนาทีทองของนักลงทุนในการจอง IPO ที่ต้นทุนต่ำ คุณภาพคับแก้ว
“ช่วงนี้ที่ตลาดหุ้นมีการพักฐานลงมาอยู่ที่ 1,420-1,440 จุดช่วยดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาจอง IPO เพิ่มมากขึ้น เพราะมองว่าความเสี่ยงค่อนข้างมีจำกัดที่ 1,300 จุดเมื่อเทียบกับเป้าหมายของทั้งปีที่ 1,600 จุด ส่วนผลกระทบจากการเมืองและร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคงเกิดขึ้นแค่ช่วงสั้น แต่คาดจะผ่านไปได้เพราะตลาดรับรู้ข่าวร้ายมามากแล้ว ในช่วงการเปิดจอง IPO 4 วันที่ผ่านมานั้นมีนักลงทุนเป็นจำนวนมากโทร.เข้ามาสอบถามข้อมูลและทำการจอง IPO กองทุนเปิด EICT ทั้งกับ ASP และทางผู้ขายหน่วยลงทุน (Selling Agent) ชั้นนำอีก 13 แห่ง ได้แก่ AIRA, BLS, CIMBS, CGS, FSS, GBX, IVG, KGI, MBKET, OSK, SCBS, TRINITY, UOBKHST”
กองทุนรวมอีทีเอฟ EICT อ้างอิงกลุ่มสื่อสาร หรือ ICT ประกอบด้วย 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (2) กลุ่มผู้ขายโทรศัพท์มือถือ/อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (3) กลุ่มให้บริการดาวเทียม (4) กลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และ (5) กลุ่มผู้ให้บริการโครงข่ายไอซีที ซึ่งมีอัตราการเติบโตในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาประมาณ 60% และมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 35% ในปีหน้า สูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดและกลุ่มธุรกิจอื่นๆ คาดกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะได้ปัจจัยทางธุรกิจหนุนมากที่สุดจาก (1) กำไรจากค่าบริการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น จากแนวโน้มการใช้ Smart Phone & Tablet หนุนความต้องการบริการ 3G ใหม่ (2) ค่าใช้จ่ายลดลงจากสัมปทานใหม่ที่จ่ายเพียง 5.25% จากเดิมที่ 25-30% (3) จำนวนการโอนลูกค้ามา 3G จะเพิ่มจาก 7.2 ล้านเลขหมาย เป็น 54 ล้านเลขหมาย นอกจากนี้ กลุ่ม ICT ยังให้ผลตอบแทนสูงในรูปของเงินปันผล 4-5% ต่อปี จึงถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความน่าสนใจลงทุนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ASP ในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) และผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน (Participating Dealer) ของ EICT พร้อมทำหน้าที่คอยเสริมสภาพคล่องการซื้อขายของ EICT บนกระดาน ภายหลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกในวันที่ 27 ส.ค. 56 ซึ่ง EICT มีประโยชน์ในแง่ของการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในดัชนีหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์เสมือนเป็นหุ้นตัวหนึ่ง รู้ราคาซื้อขายแบบ Real time และมีการประกาศสัดส่วนการลงทุนที่โปร่งใสทุกวันทำการ
“ช่วงนี้ที่ตลาดหุ้นมีการพักฐานลงมาอยู่ที่ 1,420-1,440 จุดช่วยดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาจอง IPO เพิ่มมากขึ้น เพราะมองว่าความเสี่ยงค่อนข้างมีจำกัดที่ 1,300 จุดเมื่อเทียบกับเป้าหมายของทั้งปีที่ 1,600 จุด ส่วนผลกระทบจากการเมืองและร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคงเกิดขึ้นแค่ช่วงสั้น แต่คาดจะผ่านไปได้เพราะตลาดรับรู้ข่าวร้ายมามากแล้ว ในช่วงการเปิดจอง IPO 4 วันที่ผ่านมานั้นมีนักลงทุนเป็นจำนวนมากโทร.เข้ามาสอบถามข้อมูลและทำการจอง IPO กองทุนเปิด EICT ทั้งกับ ASP และทางผู้ขายหน่วยลงทุน (Selling Agent) ชั้นนำอีก 13 แห่ง ได้แก่ AIRA, BLS, CIMBS, CGS, FSS, GBX, IVG, KGI, MBKET, OSK, SCBS, TRINITY, UOBKHST”
กองทุนรวมอีทีเอฟ EICT อ้างอิงกลุ่มสื่อสาร หรือ ICT ประกอบด้วย 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (2) กลุ่มผู้ขายโทรศัพท์มือถือ/อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (3) กลุ่มให้บริการดาวเทียม (4) กลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และ (5) กลุ่มผู้ให้บริการโครงข่ายไอซีที ซึ่งมีอัตราการเติบโตในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาประมาณ 60% และมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 35% ในปีหน้า สูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดและกลุ่มธุรกิจอื่นๆ คาดกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะได้ปัจจัยทางธุรกิจหนุนมากที่สุดจาก (1) กำไรจากค่าบริการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น จากแนวโน้มการใช้ Smart Phone & Tablet หนุนความต้องการบริการ 3G ใหม่ (2) ค่าใช้จ่ายลดลงจากสัมปทานใหม่ที่จ่ายเพียง 5.25% จากเดิมที่ 25-30% (3) จำนวนการโอนลูกค้ามา 3G จะเพิ่มจาก 7.2 ล้านเลขหมาย เป็น 54 ล้านเลขหมาย นอกจากนี้ กลุ่ม ICT ยังให้ผลตอบแทนสูงในรูปของเงินปันผล 4-5% ต่อปี จึงถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความน่าสนใจลงทุนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ASP ในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) และผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน (Participating Dealer) ของ EICT พร้อมทำหน้าที่คอยเสริมสภาพคล่องการซื้อขายของ EICT บนกระดาน ภายหลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกในวันที่ 27 ส.ค. 56 ซึ่ง EICT มีประโยชน์ในแง่ของการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในดัชนีหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์เสมือนเป็นหุ้นตัวหนึ่ง รู้ราคาซื้อขายแบบ Real time และมีการประกาศสัดส่วนการลงทุนที่โปร่งใสทุกวันทำการ
