xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กรุงไทยมองหุ้นกลุ่ม ICT ยังเติบโตสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงไทยเปิดขายกองทุนอีทีเอฟ KTAM SET ICT ETF Tracker (EICT) ลงทุนหุ้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มองมีแนวโน้มเติบโตดีจากการใช้มือถือและสังคมออนไลน์ เผยเตรียมออกกองทุนอสังหาฯ กลุ่มซีพีแลนด์ ดัน AUM แตะ500,000 ล้าน

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเปิดขายกองทุน KTAM SET ICT ETF Tracker (EICT) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงกับหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เปิดขาย IPO วันที่ 5-16 สิงหาคม 2556 โดยหุ้นในกลุ่มไอซีทีที่ลงทุนมี 27 บริษัท ประกอบไปด้วย 1) กลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 2) กลุ่มผู้ขายโทรศัพท์มือถือ/อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

3) กลุ่มให้บริการดาวเทียม 4) กลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และ 5) กลุ่มผู้ให้บริการโครงข่ายไอซีที ซึ่งปัจจุบันกลุ่มไอซีทีมีอัตราการเติบโตในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 57.22% ขณะที่ตลาดเติบโตขึ้นเพียง 23.87% และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 33% และ 27% ในปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่ากลุ่มนี้ยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 4-5% ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่ดีในช่วงตลาดมีความผันผวน

“จากการใช้บริการมือถือ อินเทอร์เน็ตในสังคมออนไลน์ ทำให้กองทุนนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยตอนนี้ปรับตัวลงมามากจึงเป็นจังหวะที่น่าเข้าไปลงทุน ซึ่งผลประกอบการของหุ้นกลุ่มนี้ถือว่าดี และเมื่อผ่านเรื่องการประมูล 3G มาแล้วก็ถือเป็นช่วงที่มีการลงทุนและให้บริการลูกค้าต่อไป”

ทั้งนี้ เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ก็ชะลอตัวลงมา แต่ทางแบงก์ชาติมองว่าการเติบโตน่าจะกลับมาในช่วงปลายปี ซึ่งก็ได้ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจลงจากระดับ5% ลงมาเหลือ 4.2% เนื่องจากมองว่ามีการชะลอตัวของการบริโภคในประเทศ และหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจที่ปีนี้ไม่น่าจะมีการลดดอกเบี้ยลง แต่ บลจ.กรุงไทยมองว่าน่าจะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

“ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงมามากหลังมองระดับดัชนีอยู่ที่ประมาณ 1,550-1,600 จุด ขณะที่ดาวน์ไซด์ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับ 1,300 จุด เงินลงทุนไม่น่าจะกลับเข้ามาตลาดไทยมากหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มดีขึ้น แต่ก็ส่งผลดีต่อการส่งออกไทย ส่วนจีนก็ยังเติบโตแบบทรงตัว ส่วนปัจจัยการเมืองก็มีผลกระทบบ้างในช่วงสั้น แต่ก็น่าจะผ่านไปได้เพราะตลาดเจอปัญหาและรับรู้มามากแล้ว”

นายสมชัย ยังกล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ลงทุนในกลุ่มซีพีแลนด์ 3 ที่เป็นออฟฟิศสำนักงาน ซึ่งกำลังยื่นเรื่องขออนุมัติจาก ก.ล.ต. มูลค่าโครงการ 1 หมื่นล้านบาท รวมไปถึงกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าที่จะออกในปีนี้ ดังนั้น ในปีนี้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 420,000 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น