บลจ.เอ็มเอฟซีเผยเตรียมเข็นกองทุนบอนด์ “เอ็มเอฟซี สเตเบิ้ล อินคัม ฟันด์ 14” อายุประมาณ 3 ปี 2 เดือน ผลตอบแทน 3.70 ต่อปี เริ่มไอพีโอ 23-29 กรกฎาคม 2556
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีรุกเปิดขายกองทุนรวมที่ลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สเตเบิ้ล อินคัม ฟันด์ 14 (MSI 14) ลงทุนตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐและเอกชนทั้งในและนอกประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 ปี 2 เดือน ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นคือ จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 3 เดือนเฉพาะผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.70 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้ (10 บาท) ทั้งนี้เมื่อกองทุนครบอายุกองทุนบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด และสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน หรือกองทุนเปิด MM-GOV เพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ กองทุนเน้นนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารต่างประเทศ หรือตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งกองทุนเปิด MSI 14 มีกลยุทธ์การลงทุนเพียงครั้งเดียว และถือทรัพย์สินไว้จนครบอายุของทรัพย์สินนั้น
นอกจากนี้ ตัวอย่างตราสารที่จะลงทุนคือหุ้นกู้ ได้แก่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 12 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.43 ต่อปี บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.92 ต่อปี บริษัท ฐิติกร จำกัด ลงทุนร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.91 ต่อปี บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 17 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.64 ต่อปี บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 6.5 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.25 ต่อปี บริษัท เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 8 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.34 ต่อปี และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 8.50 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.39 ต่อปี โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ คือไม่ต่ำกว่า BBB-
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีรุกเปิดขายกองทุนรวมที่ลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สเตเบิ้ล อินคัม ฟันด์ 14 (MSI 14) ลงทุนตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐและเอกชนทั้งในและนอกประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 ปี 2 เดือน ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นคือ จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 3 เดือนเฉพาะผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.70 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้ (10 บาท) ทั้งนี้เมื่อกองทุนครบอายุกองทุนบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด และสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน หรือกองทุนเปิด MM-GOV เพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ กองทุนเน้นนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารต่างประเทศ หรือตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งกองทุนเปิด MSI 14 มีกลยุทธ์การลงทุนเพียงครั้งเดียว และถือทรัพย์สินไว้จนครบอายุของทรัพย์สินนั้น
นอกจากนี้ ตัวอย่างตราสารที่จะลงทุนคือหุ้นกู้ ได้แก่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 12 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.43 ต่อปี บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.92 ต่อปี บริษัท ฐิติกร จำกัด ลงทุนร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.91 ต่อปี บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 17 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.64 ต่อปี บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 6.5 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.25 ต่อปี บริษัท เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 8 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.34 ต่อปี และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 8.50 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.39 ต่อปี โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ คือไม่ต่ำกว่า BBB-