อลิอันซ์ อยุธยาประกันชีวิตทุ่ม 100 ล้านพัฒนาช่องทางตัวแทน ตั้งเป้าขึ้นเบอร์หนึ่งใน 4 ปี มั่นใจคุณภาพและจำนวนตัวแทนจะเพิ่มขึ้นหลังปรับโครงสร้างผลประโยชน์ใหม่ เน้นความยั่งยืน และความชำนาญตามถนัดของแต่ละบุคคล พร้อมเดินหน้าขยายศูนย์และการจัดอบรมเพิ่มเต็มสูบ
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ AZAY เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตอย่างทวีคูณ ซึ่งช่องทางตัวแทนเป็นอีกช่องทางที่บริษัทพยายามจะพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 100 ล้านบาทเพื่ออบรมและขยายศูนย์ฝึกอบรมให้มีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการปรับรูปแบบการให้ผลประโยชน์แก่ตัวแทน และพัฒนาสินค้าสำหรับช่องทางตัวแทนโดยเฉพาะเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาการปรับปรุงโครงสร้างส่งผลให้ยอดขายของบริษัทสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งต่อจากนี้บริษัทจะมีการลงทุนเพื่อพัฒนาตัวแทนขายอย่างต่อเนื่องทุกปี
นายสง่า พิชญังกูร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารผ่านตัวแทน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า การปรับโครงสร้างผลประโยชน์ให้แก่ตัวแทนของบริษัทได้ทยอยทำความเข้าใจกับตัวแทนของบริษัทตั้งแต่ช่วงต้นปี และสามารถเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีตัวแทน 17,000 คน และเป็นตัวแทนที่มีผลงานสม่ำเสมอประมาณ 20% โดยหลังจากปรับโครงสร้างแล้วบริษัทตั้งเป้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมสำหรับช่องทางการขายผ่านตัวแทนภายใน 3-4 ปีต่อจากนี้
“เราจะเป็นที่หนึ่งทั้งเรื่องของจำนวนเบี้ยและคุณภาพของตัวแทน ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมาเราโตกว่าปีที่แล้ว 16-17% แต่หากต้องการเป็นที่หนึ่งเราคงจะต้องโตกว่าอุตสาหกรรม 1 เท่าทุกปีถึงจะได้ตามเป้า” นายสง่ากล่าว
ส่วนรายละเอียดของโครงสร้างผลประโยชน์ฝ่ายขายใหม่ที่ดีที่สุดในธุรกิจ ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน มีดังนี้ 1. ปรับโครงสร้างให้ตัวแทนได้ทำงานตามถนัด ไม่ว่าจะถนัดขายคนเดียว (One Man Show) หรือสร้างทีม ก็มีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพตัวแทนได้แบบไร้ขีดจำกัด 2. สำหรับโครงสร้างผลประโยชน์ สามารถสนับสนุนการเติบโตแบบยั่งยืน รวมทั้งการกระตุ้นยอดขายผ่านคุณวุฒิและกิจกรรมทางวิชาการเพื่อส่งเสริมให้ทัพนักขายมือทองสร้างผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หลังจากปรับโครงสร้างผลประโยชน์แล้วเชื่อว่าน่าจะมีตัวแทนเข้ามาร่วมงานกับบริษัทมากขึ้น และมีการพัฒนาทักษะได้ตามความถนัดของบุคคล โดยสุดท้ายแล้วเป้าหมายของบริษัทคือจะสามารถเพิ่มทั้ง 2 ด้านข้างต้นควบคู่กันไปได้
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ AZAY เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตอย่างทวีคูณ ซึ่งช่องทางตัวแทนเป็นอีกช่องทางที่บริษัทพยายามจะพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 100 ล้านบาทเพื่ออบรมและขยายศูนย์ฝึกอบรมให้มีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการปรับรูปแบบการให้ผลประโยชน์แก่ตัวแทน และพัฒนาสินค้าสำหรับช่องทางตัวแทนโดยเฉพาะเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาการปรับปรุงโครงสร้างส่งผลให้ยอดขายของบริษัทสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งต่อจากนี้บริษัทจะมีการลงทุนเพื่อพัฒนาตัวแทนขายอย่างต่อเนื่องทุกปี
นายสง่า พิชญังกูร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารผ่านตัวแทน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า การปรับโครงสร้างผลประโยชน์ให้แก่ตัวแทนของบริษัทได้ทยอยทำความเข้าใจกับตัวแทนของบริษัทตั้งแต่ช่วงต้นปี และสามารถเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีตัวแทน 17,000 คน และเป็นตัวแทนที่มีผลงานสม่ำเสมอประมาณ 20% โดยหลังจากปรับโครงสร้างแล้วบริษัทตั้งเป้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมสำหรับช่องทางการขายผ่านตัวแทนภายใน 3-4 ปีต่อจากนี้
“เราจะเป็นที่หนึ่งทั้งเรื่องของจำนวนเบี้ยและคุณภาพของตัวแทน ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมาเราโตกว่าปีที่แล้ว 16-17% แต่หากต้องการเป็นที่หนึ่งเราคงจะต้องโตกว่าอุตสาหกรรม 1 เท่าทุกปีถึงจะได้ตามเป้า” นายสง่ากล่าว
ส่วนรายละเอียดของโครงสร้างผลประโยชน์ฝ่ายขายใหม่ที่ดีที่สุดในธุรกิจ ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน มีดังนี้ 1. ปรับโครงสร้างให้ตัวแทนได้ทำงานตามถนัด ไม่ว่าจะถนัดขายคนเดียว (One Man Show) หรือสร้างทีม ก็มีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพตัวแทนได้แบบไร้ขีดจำกัด 2. สำหรับโครงสร้างผลประโยชน์ สามารถสนับสนุนการเติบโตแบบยั่งยืน รวมทั้งการกระตุ้นยอดขายผ่านคุณวุฒิและกิจกรรมทางวิชาการเพื่อส่งเสริมให้ทัพนักขายมือทองสร้างผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หลังจากปรับโครงสร้างผลประโยชน์แล้วเชื่อว่าน่าจะมีตัวแทนเข้ามาร่วมงานกับบริษัทมากขึ้น และมีการพัฒนาทักษะได้ตามความถนัดของบุคคล โดยสุดท้ายแล้วเป้าหมายของบริษัทคือจะสามารถเพิ่มทั้ง 2 ด้านข้างต้นควบคู่กันไปได้
