xs
xsm
sm
md
lg

ในภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน การลงทุนแบบต้นทุนเฉลี่ยยังมีประสิทธิภาพหรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ ชวน “คนไทย ใช้กองทุนรวม”

บลจ.ทหารไทย
www.tmbam.com
โทร. 1725

สำหรับผู้ลงทุนที่ติดตามข้อมูลการลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์ของไทย จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภาวะตลาดในปัจจุบันมีความผันผวนสูง การเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET ระดับ 30-40 จุดต่อวันเกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ ส่งผลให้ผู้ลงทุนอาจเกิดความกังวลว่าการลงทุนด้วยวิธีต้นทุนเฉลี่ยหรือ Dollar Cost Average (DCA) ซึ่งเป็นการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กันอย่างสม่ำเสมอในสินทรัพย์ตามการจัดทัพลงทุนที่ได้วางแผนนั้น ในภาวะเช่นนี้ควรหยุดการลงทุนออกไปก่อนหรือไม่

การลงทุนด้วยวิธีต้นทุนเฉลี่ยหรือ DCA นั้น นอกจากจะเป็นการช่วยรักษาวินัยในการลงทุนให้สามารถลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังเป็นวิธีการที่ช่วยให้ผู้ลงทุนได้ต้นทุนในการลงทุนเฉลี่ยต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ที่ลงทุน (ในที่นี้คือหลักทรัพย์หรือหุ้น) เนื่องจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินลงทุนที่เท่ากันนั้น เมื่อราคาของหุ้นลดลงจะทำให้ผู้ลงทุนได้จำนวนหน่วยของหุ้นเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อราคาหลักทรัพย์สูงหรือแพงขึ้นผู้ลงทุนจะได้จำนวนหน่วยของหุ้นลดลง และในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนที่สูง โดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นมีทิศทางตกต่ำลงอย่างมากนั้น การลงทุนด้วยวิธี DCA จะยิ่งช่วยให้ผู้ลงทุนได้สะสมหุ้นที่มีราคาถูกเป็นจำนวนที่มากขึ้น และสามารถสร้างกำไรให้ผู้ลงทุนเมื่อราคาหุ้นฟื้นตัว มากกว่าภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนต่ำ

ข้อมูลจากตารางเป็นการสมมติฐานราคาหุ้นในกรณีที่ความผันผวนของหุ้นอยู่ในระดับต่ำ ดังเช่นภาวะตลาดหุ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และลงทุนในหุ้น 10,000 บาททุกเดือนเป็นระยะเวลา 5 เดือน ส่งผลให้ได้จำนวนหน่วยของหุ้นทั้งหมด 4,933 หุ้น จากเงินลงทุนรวม 50,000 บาท ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 10.14 บาท (ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย = เงินลงทุนรวม/จำนวนที่ได้รับ) และได้กำไร 1,796 บาท (กำไร = (ราคาปัจจุบัน-ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย) x จำนวนที่ได้รับรวม)

ข้อมูลจากตารางเป็นการสมมติฐานราคาหุ้นในกรณีที่ความผันผวนของหุ้นอยู่ในระดับสูง ดังเช่นภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบัน การลงทุนในหุ้น 10,000 บาททุกเดือนเป็นระยะเวลา 5 เดือน ส่งผลให้ได้จำนวนหน่วยของหุ้นทั้งหมด 5,055 หุ้น จากเงินลงทุนรวม 50,000 บาท ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 9.89 บาท และได้กำไร 3,075 บาท มากกว่าภาวะที่ความผันผวนต่ำที่สามารถทำกำไรได้เพียง 1,796 บาท แม้ว่าราคาที่เริ่มต้นลงทุนและราคาของวันสุดท้ายที่ลงทุนจะเท่ากันที่ 10 บาท และ 10.50 บาทก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่ผิดพลาด ราคาหุ้นที่ลงทุนไม่สามารถฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโดยรวมก็อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนได้ ทั้งนี้ การลดผลกระทบของปัญหาการเลือกหุ้นที่ผิดพลาดนั้นสามารถทำได้โดยการกระจายการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย หรือใช้บริการจากการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการกระจายการลงทุนที่ดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ Warren Buffett นักลงทุนอันดับหนึ่งของโลกได้ให้คำแนะนำไว้ว่า “สำหรับนักลงทุนรายย่อยทั่วไปที่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลของบริษัทแต่ละบริษัทได้อย่างลึกซึ้งเพียงพอ การลงทุนผ่านกองทุนดัชนีที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายต่ำ ถือเป็นวิธีการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น และหากคุณซื้ออย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คุณอาจไม่ได้ลงทุนในราคาที่ต่ำที่สุด แต่คุณจะไม่นำเงินทั้งหมดไปลงทุนในราคาที่สูงที่สุดเช่นกัน” ซึ่งการลงทุนในกองทุนดัชนีหรือ Index Fund ตามที่ Buffett แนะนำนั้น ก็จะช่วยให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าราคาหรือมูลค่าของกองทุนที่ลงทุนนั้นจะฟื้นตัวตามตลาดหุ้นโดยรวม

โดยสรุปแล้ว การลงทุนแบบต้นทุนเฉลี่ย หรือ Dollar Cost Average (DCA) จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้นในภาวะตลาดหุ้นที่มีความผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม เพื่อลดผลกระทบของการเลือกลงทุนในหุ้นที่ผิดพลาด ผู้ลงทุนควรมีการกระจายการลงทุนที่ดี รวมถึงเงินที่นำมาลงทุนควรเป็นเงินที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาวเพียงพอที่จะสามารถลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ และผู้ลงทุนไม่ควรกังวลกับภาวะความผันผวนของตลาดจนเกินไป เพื่อให้ตนเองสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการลงทุนที่ตั้งใจไว้ในระยะยาวได้อย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น