บลจ.ไทยพาณิชย์จับมือกลุ่มชาญอิสสระตั้งกองทุนอสังหาฯ โรงแรมศรีพันวา มูลค่าโครงการกว่า 2,001.83 ล้านบาท พร้อมประกันรายได้ค่าเช่าคงที่ 5 ปีแรกปีละ 151 ล้านบาท ชูจุดเด่นเจาะกลุ่มลูกค้านิชมาร์เกตกำลังซื้อสูง คาดเปิดขายกลางเดือน ก.ค.นี้
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บลจ.ได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา หรือ SWPF เพื่อลงทุนในโครงการโรงแรมศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต มูลค่า 2,001.83 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโรงแรมศรีพันวาดำเนินธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับหรูหรา ซึ่งประกอบด้วยบ้านพักแบบวิลลาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว จำนวน 38 ยูนิต และห้องพักเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวอีก 7 ยูนิต
ทั้งนี้ กองทุน SWPF จะลงทุนครั้งแรกในกรรมสิทธิ์โครงการศรีพันวาจากบริษัทชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ จำกัด ประกอบด้วยที่ดินพื้นที่ประมาณ 21 ไร่ 2 งาน 55 ตารางวา อาคารและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมซื้อเฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ และงานระบบต่างๆ ของโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์
ด้านนายวรสิทธิ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ จำกัด บอกว่า ปัจจุบันโรงแรมศรีพันวาภูเก็ตมีอัตราการเช่าฉลี่ยประมาณ 58% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเช่าเฉลี่ยของโรงแรมระดับไฮเอนด์ 35-40% และมีรายได้รวมเติบโตเฉลี่ย 23.9% ตั้งแต่ปี 2553-2555
ทั้งนี้ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ ถือหุ้นใหญ่ จะเช่าต่อจากกองทุนเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยการันตีรายได้เข้ากองทุนเป็นจำนวน 151 ล้านบาทในช่วง 5 ปีแรก และปรับขึ้่นค่าเช่า 10% ทุกๆ 3 ปี โดยเงินที่ระดมทุนมาได้ ส่วนหนึ่งชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ จะกลับเข้าไปลงทุนในกองทุน ส่วนที่เหลือจะนำไปขยายโครงการศรีพันวาบนพื้นที่ 10 ไร่ นอกจากนี้ ชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ยังมีแผนที่จะเพิ่มทุนโครงการด้วยการนำสินทรัพย์ของศรีพันวาเข้ามาอยู่ในกองทุนอีกด้วย
“ปัจจุบันโรงแรมศรีพันวามีพื้นที่ทั้งหมด 85 ไร่ ซึ่งศรีพันวามีแผนจะพัฒนาโครงการให้ครบทั้ง 85 ไร่ภายใน 3-4 ปีข้างหน้า”
นายวรสิทธิ กล่าวว่า ในแง่การแข่งขันของธุรกิจโรงแรม 5 ดาวในภูเก็ตนั้นค่อนข้างต่ำ เนื่องจากจำนวนโรงแรมในระดับเดียวกันมีอยู่จำกัด และการเข้าสู่ตลาดของคู่แข่งรายใหม่เป็นไปได้ยาก เพราะเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนและต้องการความชำนาญของผู้บริหารเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าของธุรกิจโรงแรมระดับนี้มีลักษณะเฉพาะกลุ่ม หรือ นิชมาร์เกต ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและมักจะได้รับผลกระทบน้อยจากความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจนั้นมีแนวโน้มที่จะขยายตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ จีน รัสเซีย อินเดีย เป็นต้น ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของโครงการโรงแรมศรีพันวา