อุตสาหกรรมกระบี่รุดตรวจภูเขาหน้าวังหมี จ.กระบี่ หลังชาวบ้านหวั่นถล่ม

กระบี่ - อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ เข้าสำรวจภูเขาหน้าวังหมี ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ หลังชาวบ้านร้องเรียนเกิดรอยร้าวจากการระเบิดหินเขาสัมปทานหวั่นถล่ม เบื้องต้นพบรอยร้าวหลายจุด พร้อมเตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดหาทางป้องกัน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.) นายสฤษดิ์ ชื่นชม หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจบริเวณรอบๆ เขาหน้าวังหมี ในพื้นที่สัมปทานระเบิดย่อยหิน เพื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้าง ของบริษัทนายเหมือง จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง ม.2 และม.7 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ มีเนื้อที่จำนวน 21 ไร่ โดยมี นายจำนงค์ เกิดตลอด ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฯ ร่วมตรวจสอบ

สำหรับการตรวจสอบครั้งนี้ สืบเนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ได้ร้องเรียนว่า พบบริเวณส่วนยอดของเขาที่ได้รับสัมปทาน เกิดรอยร้าวหลายจุดจากการระเบิดย่อยเพื่อเพื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้าง เกรงว่าจะถล่มลงมาในช่วงที่ฝนตกหนัก อาจจะทำให้คนงาน และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้รับอันตราย ทั้งนี้ เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา หินขนาดใหญ่บนยอดเขาถล่มมาทับสวนยางพาราของชาวบ้านได้รับความเสียหาย แต่เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับอันตราย ดังนั้น ช่วงหน้าฝนนี้อาจจะถล่มซ้ำลงมาอีก

นายสฤษดิ์ ชื่นชม หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวภายหลังจากการตรวจสอบว่า บริเวณเขาหน้าวังหมีนั้นเป็นพื้นที่เสียงมากที่สุดในบรรดาภูเขาที่อยู่ในพื้นที่มีการสัมปทานระเบิดย่อยหินในจังหวัดกระบี่ เพราะรอบๆ เขาที่มีการระเบิดหินมีร่องลึกหลายจุด เสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์ และเกิดรอยร้าวทั่วบริเวณ ที่สำคัญบนยอดเขายังมีก้อนหินขนาดใหญ่เกิดรอยร้าวพร้อมที่จะถล่มลงมาได้ตลอดเวลา

ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทางบริษัทนายเหมือง จำกัด ทำรั้ว และปักป้ายกันพื้นที่ห้ามมิให้นำเครื่องจักรเข้าไป หรือให้คนงานเข้าไปใกล้บริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนักอาจจะเกิดดินสไลด์ลงมาทับคนงานได้ ส่วนบริเวณฝั่งริมถนนในหมู่บ้าน ทางบริษัทผู้สัมปทานก็ได้ขุดทำนบเป็นแนวป้องกันเพื่อไม่เศษหินลงไปบนถนน แล้ว หากเกิดหินถล่มก็ไม่ส่งผลกระทบต่อรถที่วิ่งผ่านไปมาอย่างแน่นอน

ด้าน นายจำนงค์ เกิดตลอด ผู้จัดการทั่วไปของ บริษัทนายเหมือง จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมากกว่า 6 เดือน ไม่เคยมีการระเบิดหินตามที่ชาวบ้านร้องเรียนแต่อย่างใด และทราบดีว่าบริเวณดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง แต่ไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าไปดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากขณะนี้ทางกรมป่าไม้ยังไม่ต่อใบอนุญาตเข้าในพื้นที่ ซึ่งได้หมดอายุเมื่อเดือนกันยายน 55 ที่ผ่านมา จึงต้องหยุดการดำเนินการ ซึ่งหากทางจังหวัดเห็นว่าควรที่จะต้องหาทางแก้ไขทางบริษัทยินดีที่จะดำเนินการให้ทันที

ขณะที่ นายบุญฤกษ์ เต้บำรุง ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ทับปริก กล่าวว่า กรณีที่ทางบริษัทนายเหมืองอ้างว่าไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้นั้น เพื่อเป็นการหาทางที่จะต่อใบอนุญาต ซึ่งหากจังหวัดจะแก้ปัญหาเรื่องความเสี่ยงนั้น ตนเสนอให้หน่วยงานอื่นนำเครื่องจักรเข้าไปดำเนินการ ไม่ควรให้บริษัทสัมปทานเข้าไปดำเนินการ เพราะก่อนที่จะหมดอายุใบอนุญาต ทางบริษัททราบดีว่ามีความเสี่ยง แต่ไม่ยอมดำเนินการเพราะต้องการหาข้ออ้างเพื่อต่อใบอนุญาตจากรมป่าไม้ ซึ่งตนไม่เห็นด้วย

ประกอบกับบริเวณดังกล่าว ทางกรมศิลปากรยืนยันแล้วว่าเป็นแหล่งโบราณคดี แต่บริษัทดังกล่าวยังดำเนินการระเบิดหินมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2549 รวมเวลานานกว่า 7 ปี ทำให้เขาลูกดังกล่าวได้รับความเสียหาย และเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับผลกระทบมากพอแล้ว