บลจ.บัวหลวงเผยตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนเทขาย หลังเศรษฐกิจโลกกังวลเรื่อง QE ชี้อีก 3-6 เดือนเงินลงทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ล่าสุดเตรียมเข็นกองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 15% (ทริปเปิล 5) หรือ TRIGGER555 ระหว่างวันที่ 24 มิ.ย.-2 ก.ค.นี้ ตั้งเป้าผลตอบแทน 15% ภายใน 18 เดือน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า สภาวะตลาดหุ้นฯ ในรอบเดือนที่ผ่านมาและต่อจากนี้ไปมีโอกาสที่จะปรับฐานและมีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเรากำลังเจอการปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย และความกังวลเรื่องการหยุด QE ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแรงเทขายออกมามาก สำหรับผลกระทบภายในประเทศ ด้วยกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงเพราะการเร่งจับจ่ายไปมากในช่วงก่อนหน้า รวมถึงการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำก็มีผลต่อต้นทุนผู้ประกอบการหลายแห่งเพิ่มขึ้น เชื่อว่าการปรับฐานในครั้งนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 3-6 เดือน จากนั้น Fund Flow จากต่างประเทศจะมีโอกาสไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 15% (ทริปเปิล 5) หรือ TRIGGER555 ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน-2 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นกองทุนรวมแบบผสมนโยบายการลงทุนของกองทุนทริปเปิล 5 เป็นกองทุนรวมผสมที่ไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุน และคาดหวังผลตอบแทนจากการหาจังหวะเข้าลงทุนในหุ้นในประเทศให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15% ภายใน 18 เดือนตามอายุโครงการ นับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สิน หรือสามารถเลิกกองทุนได้ก่อนหากบริหารได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายไม่น้อยกว่า 15%
“การลงทุนในปัจจุบัน ผู้จัดการกองทุนจะต้องมีความละเอียดรอบคอบ อดทน และรอจังหวะเข้าทำที่เหมาะสม ระยะเวลาการลงทุนที่ยาวถึง 18 เดือนของ TRIGGER555 จะทำให้ผู้จัดการกองทุนไม่ถูกกดดันเรื่องระยะเวลาในการลงทุน และไม่ถูกกดดันให้ต้องลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงมากเกินไป เพราะระยะเวลายิ่งยาวก็ยิ่งมีโอกาสหาจังหวะเข้าซื้อขายได้มากขึ้น” นางวรวรรณกล่าว
นางวรวรรณกล่าวเพิ่มเติมว่า จุดเด่นของกองทุน จะเฟ้นหาโอกาสทำกำไรจากการลงทุนในหุ้นเมื่อตลาดผันผวน ไร้ทิศทางขึ้นหรือลงที่ชัดเจน ทั้งมองหาหุ้นดีที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงจากส่วนต่างของราคา โดยเน้นจับจังหวะซื้อและขายเพื่อทำกำไร ขณะเดียวกัน 18 เดือนเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับทำกำไรจากหุ้นที่มีพื้นฐานและโอกาสทางธุรกิจที่เหมาะสม นอกจากนี้ เมื่อกองทุนบริหารและมีกำไรจะทำการทยอยคืนผลตอบแทนด้วยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ซึ่งใน 2 ครั้งแรกอยู่ที่ประมาณ 5% ของมูลค่าที่ตราไว้ และในครั้งสุดท้ายในอัตราไม่น้อยกว่า 5% ของมูลค่าที่ตราไว้ และปิดกองทุนเพื่อทำการคืนเงินลงทุน
ทั้งนี้ กองทุน TRIGGER555 เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในภาวะตลาดหุ้นผันผวน ซึ่งเชื่อมั่นในการจัดการของกองทุนที่มีทั้งประสบการณ์และชื่อเสียงในด้านการจัดการกองทุนหุ้น และสามารถรับความผันผวนของราคาหน่วยลงทุนจากการลงทุนในหุ้นได้
นอกจากนี้ หากกองทุนได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย การออกแบบกองทุนให้มีการทยอยจ่ายเงินคืนให้ก่อนครบอายุโครงการครั้งละ 5% จะช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องทนรับความเสี่ยงของราคา และรอรับผลตอบแทนคราวเดียวในตอนท้าย และหากเทียบกับอัตราผลตอบแทนของเงินปันผลของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ตอนนี้อยู่ราวๆ 3% ต่อปีนั้น ถือว่าโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมาย 15% ในระยะเวลา 18 เดือนยังน่าสนใจกว่ามาก
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า สภาวะตลาดหุ้นฯ ในรอบเดือนที่ผ่านมาและต่อจากนี้ไปมีโอกาสที่จะปรับฐานและมีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเรากำลังเจอการปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย และความกังวลเรื่องการหยุด QE ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแรงเทขายออกมามาก สำหรับผลกระทบภายในประเทศ ด้วยกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงเพราะการเร่งจับจ่ายไปมากในช่วงก่อนหน้า รวมถึงการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำก็มีผลต่อต้นทุนผู้ประกอบการหลายแห่งเพิ่มขึ้น เชื่อว่าการปรับฐานในครั้งนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 3-6 เดือน จากนั้น Fund Flow จากต่างประเทศจะมีโอกาสไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 15% (ทริปเปิล 5) หรือ TRIGGER555 ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน-2 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นกองทุนรวมแบบผสมนโยบายการลงทุนของกองทุนทริปเปิล 5 เป็นกองทุนรวมผสมที่ไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุน และคาดหวังผลตอบแทนจากการหาจังหวะเข้าลงทุนในหุ้นในประเทศให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15% ภายใน 18 เดือนตามอายุโครงการ นับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สิน หรือสามารถเลิกกองทุนได้ก่อนหากบริหารได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายไม่น้อยกว่า 15%
“การลงทุนในปัจจุบัน ผู้จัดการกองทุนจะต้องมีความละเอียดรอบคอบ อดทน และรอจังหวะเข้าทำที่เหมาะสม ระยะเวลาการลงทุนที่ยาวถึง 18 เดือนของ TRIGGER555 จะทำให้ผู้จัดการกองทุนไม่ถูกกดดันเรื่องระยะเวลาในการลงทุน และไม่ถูกกดดันให้ต้องลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงมากเกินไป เพราะระยะเวลายิ่งยาวก็ยิ่งมีโอกาสหาจังหวะเข้าซื้อขายได้มากขึ้น” นางวรวรรณกล่าว
นางวรวรรณกล่าวเพิ่มเติมว่า จุดเด่นของกองทุน จะเฟ้นหาโอกาสทำกำไรจากการลงทุนในหุ้นเมื่อตลาดผันผวน ไร้ทิศทางขึ้นหรือลงที่ชัดเจน ทั้งมองหาหุ้นดีที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงจากส่วนต่างของราคา โดยเน้นจับจังหวะซื้อและขายเพื่อทำกำไร ขณะเดียวกัน 18 เดือนเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับทำกำไรจากหุ้นที่มีพื้นฐานและโอกาสทางธุรกิจที่เหมาะสม นอกจากนี้ เมื่อกองทุนบริหารและมีกำไรจะทำการทยอยคืนผลตอบแทนด้วยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ซึ่งใน 2 ครั้งแรกอยู่ที่ประมาณ 5% ของมูลค่าที่ตราไว้ และในครั้งสุดท้ายในอัตราไม่น้อยกว่า 5% ของมูลค่าที่ตราไว้ และปิดกองทุนเพื่อทำการคืนเงินลงทุน
ทั้งนี้ กองทุน TRIGGER555 เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในภาวะตลาดหุ้นผันผวน ซึ่งเชื่อมั่นในการจัดการของกองทุนที่มีทั้งประสบการณ์และชื่อเสียงในด้านการจัดการกองทุนหุ้น และสามารถรับความผันผวนของราคาหน่วยลงทุนจากการลงทุนในหุ้นได้
นอกจากนี้ หากกองทุนได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย การออกแบบกองทุนให้มีการทยอยจ่ายเงินคืนให้ก่อนครบอายุโครงการครั้งละ 5% จะช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องทนรับความเสี่ยงของราคา และรอรับผลตอบแทนคราวเดียวในตอนท้าย และหากเทียบกับอัตราผลตอบแทนของเงินปันผลของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ตอนนี้อยู่ราวๆ 3% ต่อปีนั้น ถือว่าโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมาย 15% ในระยะเวลา 18 เดือนยังน่าสนใจกว่ามาก