สรุปข่าวเด่นกองทุนดัง : จังหวะดีกองทริกเกอร์ นักลงทุนจับตาเฟด

ตื่นเต้นดีจริงๆ กับบรรยากาศความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาหัวทิ่มมาตลอด ก่อนจะรีบาวนด์กลับมาได้ในวันศุกร์ก่อนหยุดพักให้นักลงทุนหายใจหายคอกัน โดยสรุปแล้วดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (14 มิถุนายน 2556) ปิดตลาดที่ 1,465.27 จุด เพิ่มขึ้น 62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,895.56 ล้านบาท

ส่วนสัปดาห์หน้าเชื่อว่าหุ้นไทยยังคงผันผวนตามเดิมเพราะยังมีหลายปัจจัยรอดูความชัดเจน โดยเฉพาะท่าทีของเฟดในการประชุมวันที่ 18-19 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมากระหน่ำขายกันมาเยอะพอสมควรแล้ว และเริ่มเห็นมีการกลับเข้ามาซื้อบ้างแต่ก็บางเบาเหลือเกิน แต่จะมีการขายเพิ่มอีกหรือไม่คงต้องตามดูกัน

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในแวดวงธุรกิจกองทุนรวมก็มีกองทุนใหม่ๆ มาให้นักลงทุนเลือกลงทุนกันพอสมควร นำโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด ที่ได้ฤกษ์ส่งกองทุน ECOMM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นไทยในวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ หลังจากที่ บลจ.กรุงไทยดันกองอีทีเอฟทั้ง EBANK, ENY และ EFOOD เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยก่อนหน้านี้แล้ว

งานนี้คุณสมชัย บุญนำศิริ มั่นใจว่าคงจะมีนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุนในอีทีเอฟมากขึ้น ส่วนกองทุนนี้ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนและมีการปรับตัวลงแรง แต่เชื่อว่าหุ้นในกลุ่ม E-Commerce หากมีการปรับตัวลงก็จะปรับลงไม่มากเนื่องจากหุ้นในกลุ่มนี้มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี ซึ่งหุ้นที่อยู่ในกลุ่มนี้ เช่น CPALL, MACRO และ HMPRO จะเห็นว่ามีการเติบโตที่ดีและมีมุมมองในเชิงบวก

แต่ใครไม่หวั่นกับความผันผวนของหุ้นและจังหวะทำกำไรแบบตีหัวเข้าบ้าน สัปดาห์นี้ก็มีกองทริกเกอร์ฟันด์มาให้เลือกลงทุนกัน โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเสนอขายกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 4+4 เปอร์เซ็นต์ ทริกเกอร์ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มีนโยบายในตราสารทุนในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และผู้จัดการกองทุนสามารถรับกลยุทธ์ลงทุนตามสถานการณ์ได้

ส่วน บลจ.ทิสโก้เสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 9 กองทาร์เกตฟันด์ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท กองทุนไม่มีกำหนดอายุโครงการ โดยจะเลิกโครงการหากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% โดยเปิดเสนอขายครั้งแรก 14-18 มิ.ย. 2556

ดูแล้วน่าสนใจทั้ง 3 กองทุน แต่ใครที่หยุดพักหัวใจก็มีกองทุนตราสารหนี้ให้เลือกลงทุนกันได้ตามความต้องการ หรือจะพักเงินในกองทุนมันนีมาร์เกตก็แล้วแต่ความชอบ เพราะต้องยอมรับจริงๆ ว่าทั้งฝนทั้งหุ้นช่วงนี้กระหน่ำตกกันจนหนาวเหน็บไปตามๆ กัน ซึ่งใครที่ทำใจได้ก็ดีไป เพราะหลายสำนักเชื่อว่ายังไงปีนี้หุ้นไทยก็ยังคงน่าลงทุนอยู่ แต่ต้องขอยืมคำเพื่อนมาใช้เลยว่า งานนี้แนวรับอยู่ที่ใจล้วนๆ