xs
xsm
sm
md
lg

พื้นฐานหุ้นไทยแข็งแกร่ง บลจ.ส่งทริกเกอร์ฟันด์ดักทำกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงไทย และบลจ.ทิสโก้มั่นใจส่งกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ไอพีโอ มองหุ้นไทยผันผวนแค่ช่วงสั้นๆจากปัจจัยภายนอก พร้อมคงเป้ากรอบหุ้นไทยไว้ที่ 1,700-1,750 จุด

นางสาววรสินี สังวรเวชภัณฑ์ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ทิสโก้ เวลธ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,500 จุด ซึ่งการเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทย ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องสภาพคล่อง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะหยุดหรือลดการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ (Quantitative Easing : QE) นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐฯ และญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่าลง นักลงทุนต่างชาติขายเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนและค่าเงิน

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อจากนี้ จากการศึกษาพบว่าในช่วงการหยุด QE1, QE2 ในช่วงปี 2553-2554 ตลาดหุ้นปรับตัวลงเฉลี่ย 10% ในช่วง 2-3 เดือนก่อนการยุติ QE1, QE2 ซึ่งตอนนี้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงมาแล้ว 9% (ณ วันที่ 6 มิ.ย. 2556) ดังนั้น Downside risk ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายที่ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ กำหนดไว้ นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกโดยรวมในปัจจุบันมีความเสี่ยงน้อยลงเห็นได้จากความเสี่ยงที่ลดลงในยุโรปและจีน ทั้งนี้คาดเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ที่ระดับ 4.7% และปีหน้า 5.0% ทิสโก้ เวลธ์จึงยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยมองเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,700 จุด

“การปรับลงของตลาดหุ้นไทยในรอบนี้มองว่าใกล้ถึงจุดต่ำสุด และปรับฐานที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเป็นเพียงระยะสั้น ดังนั้นผู้ลงทุนอาจใช้จังหวะที่หุ้นปรับฐาน หันมาทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หรือลงทุนในกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตลงทุน”

โดยบลจ.ทิสโก้ ได้เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 8” ซึ่งเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นไทย และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนไม่มีกำหนดอายุโครงการ โดยจะเลิกกองทุนเมื่อสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) มากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท กองทุนไม่มีกำหนดอายุโครงการ โดยจะเลิกโครงการหากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ - 11 มิ.ย. 2556 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท

ด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างแรงในช่วงที่ผ่านมาจากราคาดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,643.40 จุดในช่วงเดือนเมษายน และ ปรับตัวลดลงต่ำสุดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556 อยู่ที่ 1,490.21 จุด หรือปรับตัวลดลงประมาณ 10% ในโอกาสนี้ บริษัทจึงเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทย5%ทริกเกอร์ ฟันด์ ( KRIG5%) เสนอขายตั้งแต่วันที่ 7-11 มิถุนายน 2556 อายุประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลง เกิดจากความกังวลของนักลงทุนต่อเฟด ว่าอาจจะตัดสินใจชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ ทั้งราคาที่อยู่อาศัย ตัวเลขการจ้างงาน และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ขณะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากกระแสความกังวลกับมาตรการของเฟด ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นทั่วเอเซียรวมทั้งไทย ทั้งนี้ ในช่วงเวลานี้ถือเป็นจังหวะที่ดี ที่บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนดังกล่าว เพื่อลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดย บริษัทมองเป้าหมายดัชนีสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,750 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น