บลจ.กสิกรไทยจับลูกค้าชอบลงทุนระยะสั้น เปิดขายกองทุนบอนด์ 2 กองรวด “เค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน และเค ตราสารหนี้ 6 เดือน” ให้ผลตอบแทน 2.4% และ 2.75% ตามลำดับ เริ่มไอพีโอแล้วถึง 10 มิ.ย.นี้ ขณะเดียวกันเตรียมปันผล 2 กองทุนต่างประเทศ K-GLOBE และ K-USXNDQ ในอัตรา 0.20 บาทพร้อมกันวันที่ 14 มิถุนายนนี้
รายงานข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุน เปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน CJ (KPPTF3MCJ) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน BM (KFI6MBM) โดยเริ่มเปิดไอพีโอแล้ววันนี้ ถึง 10 มิถุนายน 2556
ทั้งนี้ กองทุน กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน มีอายุ 3 เดือน ให้ผลตอบแทน 2.4% เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วนการลงทุน 60% เงินฝากประจำ 3 เดือน ธนาคารออมสิน 14% เงินฝากประจำ 3 เดือน ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 13% เงินฝากประจำ 3 เดือน ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 13% รวม 100%
ส่วนกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน BM มีอายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทน 2.75% เน้นลงทุนเงินฝาก Bank of China สาขามาเก๊า ในสัดส่วน 24% ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย 22% เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank ประเทศกาตาร์ 20% ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. ประเทศบราซิล 15% ตราสารหนี้ Banco BTG Brasil S.A. ประเทศบราซิล 10% ตราสารหนี้ Banco Santander (Brasil)S.A. ประเทศบราซิล 9%
โดย บลจ.กสิกรไทยเปิดเผยรายงานการลงทุนในภาวะดอกเบี้ยต่ำระบุว่า แนวโน้มการลงทุนในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ การล็อกการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดระยะเวลา (Fixed Term Fixed Yield) ไว้ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไปเป็นแนวทางที่เหมาะสม นอกจากนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำต่อไป ส่งผลให้อาจเห็นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่การลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากความผันผวนของตลาดหุ้น หากนักลงทุนต้องการพักเงินลงทุนในช่วงปรับฐานการลงทุนทิ้งเงินไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนัก ทางเลือกที่ดีสำหรับการพักเงินซึ่งได้ทั้งสภาพคล่อง และผลตอบแทนที่สูงกว่าออมทรัพย์โดยไม่เสียภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา จึงหนีไม่พ้นกองทุนประเภทกองทุนตลาดเงิน (Money Market) ซึ่งจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูง
ปันผลกอง FIF หุ้น
นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยยังเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุน เค โกลบอล อิควิตี้ (K-GLOBE)ให้จ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุนสำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และกองทุนเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100 (K-USXNDQ) สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2556 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ การกำหนดจ่ายปันผลของทั้ง 2 กองทุนจะมีขึ้นพร้อมกันในวันที่ 14 มิถุนายน 2556 ทางบริษัทจึงแจ้งให้นักลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ของทั้ง 2 กองทุนทราบก่อนทำการปันผลในวันดังกล่าว
รายงานข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุน เปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน CJ (KPPTF3MCJ) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน BM (KFI6MBM) โดยเริ่มเปิดไอพีโอแล้ววันนี้ ถึง 10 มิถุนายน 2556
ทั้งนี้ กองทุน กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน มีอายุ 3 เดือน ให้ผลตอบแทน 2.4% เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วนการลงทุน 60% เงินฝากประจำ 3 เดือน ธนาคารออมสิน 14% เงินฝากประจำ 3 เดือน ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 13% เงินฝากประจำ 3 เดือน ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 13% รวม 100%
ส่วนกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน BM มีอายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทน 2.75% เน้นลงทุนเงินฝาก Bank of China สาขามาเก๊า ในสัดส่วน 24% ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย 22% เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank ประเทศกาตาร์ 20% ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. ประเทศบราซิล 15% ตราสารหนี้ Banco BTG Brasil S.A. ประเทศบราซิล 10% ตราสารหนี้ Banco Santander (Brasil)S.A. ประเทศบราซิล 9%
โดย บลจ.กสิกรไทยเปิดเผยรายงานการลงทุนในภาวะดอกเบี้ยต่ำระบุว่า แนวโน้มการลงทุนในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ การล็อกการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดระยะเวลา (Fixed Term Fixed Yield) ไว้ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไปเป็นแนวทางที่เหมาะสม นอกจากนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำต่อไป ส่งผลให้อาจเห็นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่การลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากความผันผวนของตลาดหุ้น หากนักลงทุนต้องการพักเงินลงทุนในช่วงปรับฐานการลงทุนทิ้งเงินไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนัก ทางเลือกที่ดีสำหรับการพักเงินซึ่งได้ทั้งสภาพคล่อง และผลตอบแทนที่สูงกว่าออมทรัพย์โดยไม่เสียภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา จึงหนีไม่พ้นกองทุนประเภทกองทุนตลาดเงิน (Money Market) ซึ่งจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูง
ปันผลกอง FIF หุ้น
นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยยังเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุน เค โกลบอล อิควิตี้ (K-GLOBE)ให้จ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุนสำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และกองทุนเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100 (K-USXNDQ) สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2556 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ การกำหนดจ่ายปันผลของทั้ง 2 กองทุนจะมีขึ้นพร้อมกันในวันที่ 14 มิถุนายน 2556 ทางบริษัทจึงแจ้งให้นักลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ของทั้ง 2 กองทุนทราบก่อนทำการปันผลในวันดังกล่าว
