บลจ.กรุงไทยประเมินแนวทางแก้ไขค่าเงินบาทยังเป็นปัจจัยลบต่อการลงทุนตราสารหนี้ คาด กนง.มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 2 (KTSIV6M2) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 อายุโครงการ 6 เดือน เป็นกองทุนประเภท Roll Over เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 10.50% ลงทุนเงินฝาก/บัตรเงินฝาก/ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารทิสโก้ 23.50% ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 20.00% และลงทุนในตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน 46% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นมีการปรับตัวลดลงทุกรุ่น 3-6 Bps โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.59-2.63% ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นในช่วงนี้ประเด็นเรื่องแนวทางการจัดการค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลลบต่อการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไปในวันที่ 29 พฤษภาคมจะมีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากระดับปัจจุบันที่ระดับ 2.75% ต่อปี
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ประเภท 6 เดือนอยู่ระหว่าง 1.95-3.00% และธนาคารขนาดกลางและเล็ก อยู่ที่ประมาณ 2.00-3.30% ทั้งนี้ กองทุนที่บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารเนื่องจากบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
ทางด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M58 (KFFIX6M58) อายุประมาณ 6 เดือน เปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 14-20 พ.ค. 56 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน, สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 5% เงินฝากธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Itau Unibanco S.A (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 10%
ขณะเดียวกัน จะลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% และตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 5% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.80% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป