มอนิ่งสตาร์ เผยนักลงทุนให้คะแนนธุรกิจกองทุนรวมไทย หลังนักลงทุนทั่วโลกประเมิน อยู่ระดับ B หรือเป็นที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ ชี้ยังคงรักษามาตรฐานด้านกฎเกณฑ์การกำกับดูแลและภาษี แนะยังคงต้องปรับปรุงด้านการเปิดเผยข้อมูลกองทุนรวม
นายพีร์ ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเผยผลการศึกษาประสบการณ์ในการลงทุนในกองทุนรวมของนักลงทุนจำนวน 24 ประเทศทั่วโลกในปี 2556 โดยไทยอยู่ในระดับ B เท่ากับเนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และไต้หวัน และอยู่เหนือค่าเฉลี่ยของทุกประเทศที่ได้รับการศึกษา เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน เช่น ยกเว้นภาษีส่วนต่างกำไร ให้ลดหย่อนภาษีเงินได้จากการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น ส่งผลให้ผลการประเมินในหมวดกฎเกณฑ์การกำกับดูแลและภาษีอยู่ระดับสูงสุดเทียบกับหมวดอื่น แต่ยังต้องปรับปรุงในเรื่องข้อจำกัดของกองทุนรวมในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ และการอนุญาตให้กองทุนรวมต่างประเทศเสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ลงทุนในประเทศได้โดยตรง
"Morningstar ศึกษาเรื่อง Global Fund Investor Experience ครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมทั่วโลก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Morningstar ได้หารือกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในธุรกิจกองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง อาทิ หน่วยงานกำกับดูแล สมาคม และผู้จัดการกองทุน เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ลงทุนในการประเมินครั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Morningstar ทั่วโลกได้ร่วมกันศึกษาวิจัยธุรกิจกองทุนรวมจำนวนทั้งสิ้น 24 ประเทศ"
ด้านนายสมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยได้รับการประเมินจากผลการศึกษาประสบการณ์ในการลงทุนในกองทุนรวมของนักลงทุนจำนวน 24 ประเทศทั่วโลกอยู่ในอันดับ 3 โดยเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เท่านั้น ซึ่งยืนยันถึงความก้าวหน้าของธุรกิจกองทุนรวมของไทย และถือเป็นรางวัลความสำเร็จที่สำคัญของความพยายามพัฒนากฎระเบียบและการร่วมมือกันอย่างนักวิชาชีพที่ดีของสำนักงาน ก.ล.ต. และบริษัทจัดการกองทุนต่าง ๆ ทั้งนี้งานศึกษาของ Morningstar ที่ทำให้เห็นแนวทางวัดคุณภาพของอุตสาหกรรมกองทุนรวมโดยมุ่งไปที่ประโยชน์แก่ผู้ลงทุน และยืนยันความมุ่งมั่นของบริษัทจัดการในการร่วมมือกับทาง ก.ล.ต. ที่จะพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมให้ก้าวหน้าต่อไป
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. สนับสนุนและอยากเห็นธุรกิจจัดการกองทุนรวมไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ในส่วนของ ก.ล.ต. ยังมีเรื่องสำคัญต้องพัฒนาต่อไปเช่นกัน ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์บางเรื่อง เช่น การคิดค่าธรรมเนียม และการเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนและครบถ้วนเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ลงทุน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิเช่น การทำ MOU กับประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อให้ผู้ลงทุนรายย่อยลงทุนในกองทุนที่ตั้งในกลุ่มอาเซียนได้ การส่งเสริมให้มีบริการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุนกระจายการลงทุนให้สอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง การสนับสนุนการลงทุนระยะยาวตลอดจนการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนผ่านสื่อต่าง ๆ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของผู้ลงทุนในระยะยาวต่อไป
นายพีร์ ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเผยผลการศึกษาประสบการณ์ในการลงทุนในกองทุนรวมของนักลงทุนจำนวน 24 ประเทศทั่วโลกในปี 2556 โดยไทยอยู่ในระดับ B เท่ากับเนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และไต้หวัน และอยู่เหนือค่าเฉลี่ยของทุกประเทศที่ได้รับการศึกษา เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน เช่น ยกเว้นภาษีส่วนต่างกำไร ให้ลดหย่อนภาษีเงินได้จากการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น ส่งผลให้ผลการประเมินในหมวดกฎเกณฑ์การกำกับดูแลและภาษีอยู่ระดับสูงสุดเทียบกับหมวดอื่น แต่ยังต้องปรับปรุงในเรื่องข้อจำกัดของกองทุนรวมในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ และการอนุญาตให้กองทุนรวมต่างประเทศเสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ลงทุนในประเทศได้โดยตรง
"Morningstar ศึกษาเรื่อง Global Fund Investor Experience ครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมทั่วโลก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Morningstar ได้หารือกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในธุรกิจกองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง อาทิ หน่วยงานกำกับดูแล สมาคม และผู้จัดการกองทุน เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ลงทุนในการประเมินครั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Morningstar ทั่วโลกได้ร่วมกันศึกษาวิจัยธุรกิจกองทุนรวมจำนวนทั้งสิ้น 24 ประเทศ"
ด้านนายสมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยได้รับการประเมินจากผลการศึกษาประสบการณ์ในการลงทุนในกองทุนรวมของนักลงทุนจำนวน 24 ประเทศทั่วโลกอยู่ในอันดับ 3 โดยเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เท่านั้น ซึ่งยืนยันถึงความก้าวหน้าของธุรกิจกองทุนรวมของไทย และถือเป็นรางวัลความสำเร็จที่สำคัญของความพยายามพัฒนากฎระเบียบและการร่วมมือกันอย่างนักวิชาชีพที่ดีของสำนักงาน ก.ล.ต. และบริษัทจัดการกองทุนต่าง ๆ ทั้งนี้งานศึกษาของ Morningstar ที่ทำให้เห็นแนวทางวัดคุณภาพของอุตสาหกรรมกองทุนรวมโดยมุ่งไปที่ประโยชน์แก่ผู้ลงทุน และยืนยันความมุ่งมั่นของบริษัทจัดการในการร่วมมือกับทาง ก.ล.ต. ที่จะพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมให้ก้าวหน้าต่อไป
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. สนับสนุนและอยากเห็นธุรกิจจัดการกองทุนรวมไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ในส่วนของ ก.ล.ต. ยังมีเรื่องสำคัญต้องพัฒนาต่อไปเช่นกัน ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์บางเรื่อง เช่น การคิดค่าธรรมเนียม และการเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนและครบถ้วนเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ลงทุน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิเช่น การทำ MOU กับประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อให้ผู้ลงทุนรายย่อยลงทุนในกองทุนที่ตั้งในกลุ่มอาเซียนได้ การส่งเสริมให้มีบริการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุนกระจายการลงทุนให้สอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง การสนับสนุนการลงทุนระยะยาวตลอดจนการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนผ่านสื่อต่าง ๆ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของผู้ลงทุนในระยะยาวต่อไป