บลจ.กรุงศรีจับจังหวะหุ้นไทยปรับฐานเปิดขายกองทริกเกอร์ฟันด์ ดักทำกำไร 8% เปิดขายระหว่างวันที่ 3-10 เมษายนนี้ เชื่อหุ้นไทยมีปัจจัยหนุนเพียบทั้ง การลงทุน 2.2 ล้านบาทของภาครัฐ และเงินทุนไหลเข้าเอเชียต่อเนื่อง แม้อาจเห็นความผันผวนระยะสั้น แต่ภาพรวมสดใส
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4% พลัส 4% ทริกเกอร์ 5 (KFEQ4P4-5)ในระหว่างวันที่ 3-10 เม.ย. 56 อายุโครงการประมาณ 8 เดือน มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการดีในระยะกลางถึงยาว
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวตั้งเป้าจ่ายผลตอบแทนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นรวมกันประมาณ 8% โดยมีจุดเด่นที่ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนเร็วขึ้นจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4% หรือเท่ากับ 10.40 บาท ณ วันใดวันหนึ่ง หรือภายใน 5 วันทำการติดต่อกัน โดยบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในอัตราไม่น้อยกว่า 4% ของมูลค่าที่ตราไว้หรือ 0.40 บาทต่อหน่วย และครั้งที่ 2 อีก 4% เมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.93 บาท ณ วันใดวันหนึ่ง หรือภายใน 5 วันทำการติดต่อกัน และบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนโดยอัตโนมัติ
นายฉัตรพีกล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีมุมมองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ แม้ในระยะสั้นจะมีความผันผวนอยู่บ้าง รวมถึงอาจมีแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนเป็นระยะๆ แต่โดยภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งในส่วนของแนวโน้มเงินลงทุนทั่วโลกไหลเข้าตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตจากการลงทุนทั้งในส่วนของภาคเอกชนและในส่วนของภาครัฐซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท การพึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วลดลงอย่างมีนัยะสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประมาณการว่าจีดีพีของไทยในปีนี้อยู่ที่ 7.16% นอกจากนี้ การบริโภคภายในประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ
“กองทุนนี้ถือเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองโอกาสการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยและต้องการเข้ามาลงทุนเพื่อผลตอบแทนตามเป้าหมาย สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ การจัดสรรเงินบางส่วนมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่เหมาะสมกับกองทุน KFEQ4P4-5จะช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้” นายฉัตรพีกล่าว