xs
xsm
sm
md
lg

มองหุ้นไทยยังทะยานไปได้อีก เหตุสภาพคล่องเยอะกำไร บจ.โต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงศรี มองหุ้นไทยยังทะยานต่อไปได้ จากปัจจัยสนับสนุน การลงทุนภาครัฐ และ บจ.ที่ยังทำกำไรได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ระบุหุ้นไทยมีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับดัชนีที่สูงขึ้น คาดพอร์ตลงทุนของสถาบันจะลงทุนในบอนด์มาที่หุ้นมากขึ้น

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ดีขึ้น ปัญหาต่างๆ ผ่านสจุดต่ำสุดไปแล้วโดยเฉพาะในปัญหาในยุโรป ขณะที่สภาพคล่องในตอนนี้มีอยู่เยอะมาก ซึ่งคาดว่าเงินจะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น จากเดิมก่อนหน้านี้ที่เงินอยู่

ในตราสารหนี้จำนวนมาก ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวก็ยังสนับสนุนตลาดหุ้นในเอเชียรวมทั้งไทยให้โตขึ้นเช่นกันพร้อมกับปัจจัยในเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล แต่เงินทุนจำนวนมากนั้นจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปตามสภาพคล่องที่มาก

ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยยังเติบโตต่อไปได้จากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโตต่อเนื่องมา ดังนั้นอาจมองว่าราคาหุ้นมีราคาแพงขึ้น แต่เมื่อมองในระยะยาวบริษัทจดทะเบียนยังสามารถทำกำไรได้ดี และเชื่อว่าในอีก 2-3 ปีนี้ก็ยังทำเติบโตและมีกำไรได้ต่อไป ซึ่งบวกกับเรื่องของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วถือเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นให้วิ่งต่อไปได้อีก แต่หาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทไม่ผ่านสภาก็อาจจะส่งผลต่อตลาดหุ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องกลับมาพิจารณาปัจจัยต่างๆ กันอีกครั้ง

“ปัจจุบันหุ้นที่กลุ่มที่ต่างชาติยังเข้าซื้ออยู่ ได้แก่ กลุ่มไอซีที อาหาร พลังงาน ธนาคาร ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังมองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีการเติบโตต่อไปได้” นายไพบูลย์กล่าว

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะมีการเติบโตที่ดี โดยล่าสุดจากที่ได้ปรับประมาณการณ์คาดว่า จีดีพี จะอยู่ที่ระดับ 7.16% ในปีนี้โดยกลุ่มอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตที่ดี แต่การส่งออกอาจจะลดลงบ้าง ขณะที่เงินเฟ้อคาดว่าในปีนี้จะอยู่ที่ 3.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่เติบโต ซึ่งจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและเงินลงทุนที่ก่อนหน้านี้อยู่ในตราสารหนี้จำนวนมากนั้น คาดว่าในอีก 1-2 ปีจากนี้นักลงทุนจะเริ่มมีการปรับพอร์ตการลงทุนใหม่โดยเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงประเภทหุ้นมากขึ้น และจากความผันผวนปัจจุบันจะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยมีค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) อยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับดัชนีที่สูงขึ้น ดังนั้นหุ้นไทยจึงมีความเสี่ยงที่ต่ำรวมทั้งบริษัทจดทะเบียนด้วย

“หุ้นไทยที่มีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้อีก และมีความเสี่ยงที่ต่ำ รวมถึงผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ จึงมองว่าพอร์ตการลงทุนสถาบัน เช่น บริษัทประกันจะมีการปรับพอร์ตการลงทุนโดยเพิ่มสัดส่วนลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหุ้นเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและรองรับการจ่ายเบี้ยประกันในระยะยาว” นายประภาสกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น