Money Tips
เสกสรร โตวิวัฒน์
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท หรือ BTSGIF อยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ สาเหตุจากกองทุนนี้เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองแรกที่เปิดเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปในวันที่ 29 มี.ค. - ช่วงเช้าวันที่ 4 เม.ย. นี้ และยังเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่มาก คือมีจำนวนเงินทุนโครงการสูงถึงประมาณ 6.0-6.2 หมื่นล้านบาท นับเป็นหนึ่งในการระดมทุนเพื่อเสนอขาย IPO ที่มีมูลค่าสูงสุดในประเทศไทยครั้งหนึ่ง
เหนือสิ่งอื่นใด สาเหตุหลักที่เกิดกระแสความสนใจในกองทุนนี้เชื่อว่าเกิดจากความเชื่อมั่นที่มีต่อรถไฟฟ้า BTS ที่คนไทยและทั่วโลกรู้จักกันดีว่าเป็นระบบขนส่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีความสำคัญกับกรุงเทพมหานครอย่างมาก และตลอดจนการดำเนินงานที่ผ่านมาของ BTS ก็ได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือในการบริหารเพียงใด
BTSGIF จะเข้าไปลงทุนในรายได้ค่าโดยสารสุทธิจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2 สายหลัก ได้แก่ สายหมอชิต - อ่อนนุช และสายสะพานตากสิน - สนามกีฬาแห่งชาติ ในช่วงระยะเวลาที่ได้รับสัมปทานถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2572 นอกจากนี้ในอนาคตกองทุนรวม BTSGIF อาจมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนใหม่ๆ ที่กลุ่ม BTS เข้าไปพัฒนา โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนทุกประเภทที่ต้องการโอกาสรับรายได้สม่ำเสมอจากการลงทุนในธุรกิจขนส่งมวลชนทางรางของบีทีเอส ซึ่งเป็นวิธีการสัญจรที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน รวมถึงมีโอกาสรับประโยชน์จากรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตจากการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของจำนวนของผู้โดยสาร เพราะทั้งสองเส้นทางผ่านพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งการขยายเครือข่ายของเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐจะทำให้ปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอันเนื่องจากการได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร
ในแง่นักลงทุน หลังจาก IPO จะมีโอกาสได้รับเงินคืนระหว่างการลงทุน ตลอดช่วงระยะประมาณ 17 ปี ซึ่งประกอบด้วยสองส่วนคือ เงินปันผล และเงินลงทุนที่ทยอยจ่ายคืนด้วยการลดทุน โดยประมาณการอัตราเงินจ่ายคืนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสมมุติฐานต่างๆ ในปีแรกสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2557 ตามที่ปรากฏอยู่ในหนังสือชี้ชวน คาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับอัตราการเงินจ่ายคืน 5.8%- 6.0% ทั้งนี้ประมาณการดังกล่าวได้แบ่งเป็นเงินปันผลต่อหน่วย 5.2% - 5.4% และจากการทยอยจ่ายคืนเงินลงทุนด้วยการลดทุน 0.6% ที่คำนวณจากราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 10.40 - 10.80 บาทต่อหน่วย ตามการประมาณการรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสุทธิที่เกี่ยวกับกองทุน ทั้งนี้ อัตราเงินจ่ายคืนดังกล่าวเป็นการประมาณการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงไม่สามารถรับรองผลได้
และเนื่องจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นกองทุนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดามีสิทธิรับการยกเว้นภาษีเงินได้ในเงินปันผลที่จะได้รับจากกองทุน เป็นเวลาถึง 10 ปี นับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการแห่งกฎหมายซึ่งออกตามประมวลรัษฎากร และจะนำหน่วยลงทุนไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขายเปลี่ยนมือ
การจัดสรรหน่วยลงทุนของ BTSGIF สำหรับผู้จองซื้อทั่วไป จำนวน 771 ล้านหน่วย จะเหมือนกับการเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ คือจัดสรรแบบ Small Lot First ทำให้ผู้ลงทุนทุกคนจะมีสิทธิได้รับการจัดสรรหน่วยจำนวนเท่าๆ กัน (อาจต่างกันได้ 100 หน่วย ตามการสุ่มจัดสรรในรอบสุดท้าย ของการกระจายหน่วยให้ผู้ลงทุนตามวิธีการ) ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีผู้จองซื้อ 38,550 คน คนละเท่าๆ กัน ที่ 20,000 หน่วย (ชำระเงินค่าจองซื้อ 216,000บาท ที่ราคาสูงสุด 10.80บาทต่อหน่วย) ก็จะได้รับการจัดสรรเท่ากันพอดีที่ 20,000 หน่วย แต่ถ้าใน 38,550 คนนี้ มีบางคนจองซื้อน้อยกว่าและมากกว่า 20,000 หน่วย ผู้จองซื้อมากกว่า 20,000 หน่วย ก็จะมีโอกาสได้รับการจัดสรรมากขึ้น ขึ้นกับปริมาณความต้องการของผู้ลงทุน
นักลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ระหว่างวันที่ 29 มี.ค. - 4 เม.ย. (สำหรับวันที่ 4 เม.ย. ภายในเวลา 12.00น.) ตามวิธีการจองซื้อที่กำหนด ที่ธนาคาร 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (ยกเว้นสาขาไมโคร) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จองซื้อขั้นต่ำ 2,000 หน่วย และเพิ่มเป็นจำนวนทวีคูณของ 100 หน่วย โดยมีช่วงราคาเสนอขายหน่วยลงทุนเบื้องต้นระหว่าง 10.40 -10.80 บาทต่อหน่วย และให้ชำระที่ราคาเสนอขายสูงสุด และเมื่อจัดสรรแล้ว ราคาเสนอขายต่ำกว่า 10.80บาท หรือได้รับการจัดสรรไม่ครบตามจำนวนการจองก็จะดำเนินการคืนเงินให้ผู้จองซื้อต่อไป
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนและสอบถามได้ที่ บลจ.บัวหลวง 0-2674-6488 กด 8 หรือธนาคารผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน ทั้ง 5 แห่ง หรือ http://www.bblam.co.th/btsgif
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน
เสกสรร โตวิวัฒน์
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท หรือ BTSGIF อยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ สาเหตุจากกองทุนนี้เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองแรกที่เปิดเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปในวันที่ 29 มี.ค. - ช่วงเช้าวันที่ 4 เม.ย. นี้ และยังเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่มาก คือมีจำนวนเงินทุนโครงการสูงถึงประมาณ 6.0-6.2 หมื่นล้านบาท นับเป็นหนึ่งในการระดมทุนเพื่อเสนอขาย IPO ที่มีมูลค่าสูงสุดในประเทศไทยครั้งหนึ่ง
เหนือสิ่งอื่นใด สาเหตุหลักที่เกิดกระแสความสนใจในกองทุนนี้เชื่อว่าเกิดจากความเชื่อมั่นที่มีต่อรถไฟฟ้า BTS ที่คนไทยและทั่วโลกรู้จักกันดีว่าเป็นระบบขนส่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีความสำคัญกับกรุงเทพมหานครอย่างมาก และตลอดจนการดำเนินงานที่ผ่านมาของ BTS ก็ได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือในการบริหารเพียงใด
BTSGIF จะเข้าไปลงทุนในรายได้ค่าโดยสารสุทธิจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2 สายหลัก ได้แก่ สายหมอชิต - อ่อนนุช และสายสะพานตากสิน - สนามกีฬาแห่งชาติ ในช่วงระยะเวลาที่ได้รับสัมปทานถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2572 นอกจากนี้ในอนาคตกองทุนรวม BTSGIF อาจมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนใหม่ๆ ที่กลุ่ม BTS เข้าไปพัฒนา โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนทุกประเภทที่ต้องการโอกาสรับรายได้สม่ำเสมอจากการลงทุนในธุรกิจขนส่งมวลชนทางรางของบีทีเอส ซึ่งเป็นวิธีการสัญจรที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน รวมถึงมีโอกาสรับประโยชน์จากรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตจากการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของจำนวนของผู้โดยสาร เพราะทั้งสองเส้นทางผ่านพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งการขยายเครือข่ายของเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐจะทำให้ปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอันเนื่องจากการได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร
ในแง่นักลงทุน หลังจาก IPO จะมีโอกาสได้รับเงินคืนระหว่างการลงทุน ตลอดช่วงระยะประมาณ 17 ปี ซึ่งประกอบด้วยสองส่วนคือ เงินปันผล และเงินลงทุนที่ทยอยจ่ายคืนด้วยการลดทุน โดยประมาณการอัตราเงินจ่ายคืนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสมมุติฐานต่างๆ ในปีแรกสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2557 ตามที่ปรากฏอยู่ในหนังสือชี้ชวน คาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับอัตราการเงินจ่ายคืน 5.8%- 6.0% ทั้งนี้ประมาณการดังกล่าวได้แบ่งเป็นเงินปันผลต่อหน่วย 5.2% - 5.4% และจากการทยอยจ่ายคืนเงินลงทุนด้วยการลดทุน 0.6% ที่คำนวณจากราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 10.40 - 10.80 บาทต่อหน่วย ตามการประมาณการรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสุทธิที่เกี่ยวกับกองทุน ทั้งนี้ อัตราเงินจ่ายคืนดังกล่าวเป็นการประมาณการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงไม่สามารถรับรองผลได้
และเนื่องจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นกองทุนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดามีสิทธิรับการยกเว้นภาษีเงินได้ในเงินปันผลที่จะได้รับจากกองทุน เป็นเวลาถึง 10 ปี นับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการแห่งกฎหมายซึ่งออกตามประมวลรัษฎากร และจะนำหน่วยลงทุนไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขายเปลี่ยนมือ
การจัดสรรหน่วยลงทุนของ BTSGIF สำหรับผู้จองซื้อทั่วไป จำนวน 771 ล้านหน่วย จะเหมือนกับการเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ คือจัดสรรแบบ Small Lot First ทำให้ผู้ลงทุนทุกคนจะมีสิทธิได้รับการจัดสรรหน่วยจำนวนเท่าๆ กัน (อาจต่างกันได้ 100 หน่วย ตามการสุ่มจัดสรรในรอบสุดท้าย ของการกระจายหน่วยให้ผู้ลงทุนตามวิธีการ) ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีผู้จองซื้อ 38,550 คน คนละเท่าๆ กัน ที่ 20,000 หน่วย (ชำระเงินค่าจองซื้อ 216,000บาท ที่ราคาสูงสุด 10.80บาทต่อหน่วย) ก็จะได้รับการจัดสรรเท่ากันพอดีที่ 20,000 หน่วย แต่ถ้าใน 38,550 คนนี้ มีบางคนจองซื้อน้อยกว่าและมากกว่า 20,000 หน่วย ผู้จองซื้อมากกว่า 20,000 หน่วย ก็จะมีโอกาสได้รับการจัดสรรมากขึ้น ขึ้นกับปริมาณความต้องการของผู้ลงทุน
นักลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ระหว่างวันที่ 29 มี.ค. - 4 เม.ย. (สำหรับวันที่ 4 เม.ย. ภายในเวลา 12.00น.) ตามวิธีการจองซื้อที่กำหนด ที่ธนาคาร 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (ยกเว้นสาขาไมโคร) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จองซื้อขั้นต่ำ 2,000 หน่วย และเพิ่มเป็นจำนวนทวีคูณของ 100 หน่วย โดยมีช่วงราคาเสนอขายหน่วยลงทุนเบื้องต้นระหว่าง 10.40 -10.80 บาทต่อหน่วย และให้ชำระที่ราคาเสนอขายสูงสุด และเมื่อจัดสรรแล้ว ราคาเสนอขายต่ำกว่า 10.80บาท หรือได้รับการจัดสรรไม่ครบตามจำนวนการจองก็จะดำเนินการคืนเงินให้ผู้จองซื้อต่อไป
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนและสอบถามได้ที่ บลจ.บัวหลวง 0-2674-6488 กด 8 หรือธนาคารผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน ทั้ง 5 แห่ง หรือ http://www.bblam.co.th/btsgif
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน
