บลจ.ยูโอบีเผยเงินทุนยังไหลเข้าภูมิภาคเอเชียและจีน หลังเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มการฟื้นตัว พร้อมดันค่าเงินทั้งภูมิภาคแข็งค่าขึ้น ด้านสหรัฐฯ ตัวเลขการขายบ้านเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณการฟื้นตัวเร็วและปัจจัยบวกต่อตลาด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด เปิดเผยสถานการณ์เศรษฐกิจที่น่าสนใจว่า จากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะอัดฉีดมาตรการทางการเงิน และมาตรการอื่นๆ โดยตั้งเป้าหมายให้ค่าเงินเยนอ่อนค่า และดึงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้หลุดจากภาวะเงินฝืดอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้ามาซื้อสินทรัพย์ทั้งตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นตลอดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นถึงเช่นเดียวกับค่าเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย
ขณะที่เศรษฐกิจจีนตัวเลข GDP ของจีนที่ 7.9% ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาเป็นการขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาสนั้นสอดคล้องกับตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในเดือนที่ผ่านมา ที่แสดงชัดถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในภาคการผลิต ส่งออก และการบริโภคภายในประเทศ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างคาดว่าเศรษฐกิจจีนน่าจะมีการฟื้นตัวเกินระดับ 8%
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 จากการกลับมาตุนสินค้าอีกครั้งของธุรกิจจีนหลังจากที่ลดระดับสินค้าไปมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างคาดถึงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่น่าจะมีการชะลอตัวลงมาในช่วงครึ่งปีหลังและในระยะยาว จากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางจีนยังคงมีแนวโน้มที่จะไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นสินเชื่อมากนัก นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศจากการเน้นการผลิต การส่งออกเพื่อไปสู่ประเทศที่เน้นการบริโภคภายในประเทศนั้นได้ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ถึงระดับ GDP ของจีนที่อาจชะลอตัวลงมาที่ระดับ 7-8% ในระยะยาว
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีนเผยว่า จีนสามารถเพิ่มระดับโควตาการลงทุนในปัจจุบันขึ้นได้ 10 เท่าสำหรับนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการลงทุนในหยวน และนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
ขณะที่สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีนเผย จีนได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นเพื่อกระจายทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่มีอยู่จำนวน 3.31 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อสำรวจหาทางเลือกการลงทุนใหม่ๆ ที่จะช่วยรักษาและเพิ่มมูลค่าของทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีนที่มีมากที่สุดในโลก
ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวได้บ่งชี้ถึงสัญญาณที่ชัดเจนที่นักลงทุนต่างชาติได้มีการโยกย้ายเงินทุนและเข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์ของจีนอีกครั้งจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับภาวะตลาดของประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ที่กระแสเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ มีการปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยเฉพาะตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวได้ทำให้นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนบางส่วนเริ่มมองถึงการฟื้นตัวในอัตราเร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจมาเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าในช่วงปลายปี 2556 ซึ่งอาจตามมาด้วยการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขึ้นจากนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ และถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อตลาด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด เปิดเผยสถานการณ์เศรษฐกิจที่น่าสนใจว่า จากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะอัดฉีดมาตรการทางการเงิน และมาตรการอื่นๆ โดยตั้งเป้าหมายให้ค่าเงินเยนอ่อนค่า และดึงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้หลุดจากภาวะเงินฝืดอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้ามาซื้อสินทรัพย์ทั้งตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นตลอดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นถึงเช่นเดียวกับค่าเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย
ขณะที่เศรษฐกิจจีนตัวเลข GDP ของจีนที่ 7.9% ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาเป็นการขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาสนั้นสอดคล้องกับตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในเดือนที่ผ่านมา ที่แสดงชัดถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในภาคการผลิต ส่งออก และการบริโภคภายในประเทศ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างคาดว่าเศรษฐกิจจีนน่าจะมีการฟื้นตัวเกินระดับ 8%
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 จากการกลับมาตุนสินค้าอีกครั้งของธุรกิจจีนหลังจากที่ลดระดับสินค้าไปมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างคาดถึงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่น่าจะมีการชะลอตัวลงมาในช่วงครึ่งปีหลังและในระยะยาว จากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางจีนยังคงมีแนวโน้มที่จะไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นสินเชื่อมากนัก นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศจากการเน้นการผลิต การส่งออกเพื่อไปสู่ประเทศที่เน้นการบริโภคภายในประเทศนั้นได้ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ถึงระดับ GDP ของจีนที่อาจชะลอตัวลงมาที่ระดับ 7-8% ในระยะยาว
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีนเผยว่า จีนสามารถเพิ่มระดับโควตาการลงทุนในปัจจุบันขึ้นได้ 10 เท่าสำหรับนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการลงทุนในหยวน และนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
ขณะที่สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีนเผย จีนได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นเพื่อกระจายทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่มีอยู่จำนวน 3.31 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อสำรวจหาทางเลือกการลงทุนใหม่ๆ ที่จะช่วยรักษาและเพิ่มมูลค่าของทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีนที่มีมากที่สุดในโลก
ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวได้บ่งชี้ถึงสัญญาณที่ชัดเจนที่นักลงทุนต่างชาติได้มีการโยกย้ายเงินทุนและเข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์ของจีนอีกครั้งจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับภาวะตลาดของประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ที่กระแสเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ มีการปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยเฉพาะตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวได้ทำให้นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนบางส่วนเริ่มมองถึงการฟื้นตัวในอัตราเร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจมาเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าในช่วงปลายปี 2556 ซึ่งอาจตามมาด้วยการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขึ้นจากนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ และถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อตลาด