xs
xsm
sm
md
lg

มนุษย์หุ้น 2.0 : อุปสรรคมันเยอะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย ชัยภัทร เนื่องคำมา
www.cway-investment.com

ผมเป็นคนไฮเปอร์ เป็นเจ้าโปรเจกต์ มีโครงการอะไรต่างๆ อยากทำมากมาย ไอเดียส่วนใหญ่ผุดออกมาเมื่อเราได้อ่าน ได้ดู ได้เห็น หลายสิ่งรอบตัวทำให้เกิดอยากทำงานสร้างสรรค์ในแบบของเราด้วยตัวเราบ้าง เริ่มคิดเริ่มฝัน ก็มันก็สนุกและมีความสุขแล้ว

เริ่มแรกผมจะละเลงไอเดียตัวเองลงในสมุดโน้ตที่พกติดตัว เขียนแบบร่างและลำดับความคิดด้วย Mind map โดยในขั้นแรกผมจะเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ ใส่จินตนาการลงไป พยายามยังไม่หาเหตุลบ หรือใส่ข้อจำกัดลงไป เพราะต้องการดูว่ามันจะไหลได้ไปถึงไหน สนุกไปกับมัน

เมื่อแบบร่างเสร็จค่อยมาตกผลึก มาหาความเป็นไปได้ พิจารณาข้อจำกัด กำหนดเป้าหมายและแก่นของสิ่งที่จะลงมือทำ เพื่อวางแผนวางกลยุทธ์ กำหนดเวลาไล่เรียง ลำดับงานที่ต้องทำ และก็ลงมือทำจนเสร็จ

แต่ไม่ว่างานใดๆ โครงการใดๆ แม้เรารักจะอยากทำแค่ไหนใช่ว่าจะสำเร็จลงได้ง่ายเหมือนดั่งใจนึก เราต้องเจอกับอุปสรรคนานานัปการเพื่อเป็นบทพิสูจน์จิตใจ เป็นสิ่งทดสอบความมุ่งมั่นและตั้งใจของเรา ถ้าเราท้อแท้หมดแรงไปเสียก่อนทุกอย่างก็เป็นอันจบลงตรงนั้น

พูดถึงเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังสือของ The dip ของ Seth Godin ที่เขาบอกว่า การที่เราจะประสบความสำเร็จไปถึงเป้าหมายปลายทางได้นั้น ยังไงเสียก็ต้องพบกับอุปสรรค หลุมบ่อ (The Dip) ในชีวิตที่ต้องก้าวผ่านไป ต้องเลอะเทอะ เปอะเปื้อน เพื่อแลกมาซึ่งความสำเร็จแบบหนีไม่ได้ ที่สำคัญอุปสรรคมักมาเป็นฝูง มีมากกว่าหนึ่ง การประสบความสำเร็จต้องวัดกันที่การยืนระยะหรืออัตราการอยู่รอด ยิ่งแข็งแกร่ง เอาชนะหลุมบ่ออันเป็นอุปสรรคเล็กใหญ่ได้ โอกาสที่จะการันตีความสำเร็จได้นั้นก็มีสูง

แต่ถ้ารักสบายแต่ต้น ไปเลือกเดินทางเหว แน่นอนว่าแรกๆ สบาย แต่สุดท้ายเมื่อถลำตัวลึกก็จะยิ่งพบกับหายนะ เช่นถ้าอยากรวย อยากได้กำไรจากหุ้น ง่ายๆ เร็วๆ หวังขอหุ้น ลอกหุ้นจากกูรู จากศาสดา หรือแม้แต่เพื่อนฝูงรอบตัว แน่นอนว่าแบบนั้นอาจจะได้กำไรในช่วงแรกๆ เมื่อได้กำไรก็อยากได้อีก เสพติดกำไร ชอบเสี่ยงเกินตัว แต่สุดท้ายระยะยาวแล้วก็ขาดทุน เพราะซื้อขายหุ้นตามผู้อื่นแบบไร้ทิศทาง ไร้หลักการ เมื่อยามเจอภาวะวิกฤต หรือเกิดความผันผวน โอกาสจะขาดทุน โอกาสที่จะไม่สามารถเอาตัวรอดได้ก็จะมีสูง เพราะเมื่อรักสบายไม่ชอบลำบาก ทักษะความรู้ความสามารถในการลงทุนก็ไม่ถูกพัฒนา

อีกประเภทที่ต้องตระหนักคือ คนที่เลือกทางเดินประเภท ทางตัน แรกๆ ก็เดินสบาย เดินได้เรื่อยๆ ไม่เหนื่อย ไม่ลำบาก แต่สุดท้ายยิ่งเดินยิ่งเจอทางแคบ ทางตัน ไม่ก้าวหน้าไปไหน อยู่กับที่ ไปไม่ถึงเป้าหมายปลายทางแห่งความสำเร็จ เพราะความรู้ความสามารถไม่เพียงพอ

เปรียบได้กับคนที่เมื่อรู้แล้วหยุดอยู่กับที่ ไม่หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่พัฒนาตนเองไปตามสถานการณ์ ภาวะแวดล้อม รักเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองรู้ ตนเองเชื่อ จนไม่เปิดใจเรียนรู้ หรือศึกษาสิ่งใหม่ นอกจากนี้ยังมีอคติ ไม่คิดสนทนา แลกเปลี่ยนความรู้เพื่อสังเคราะห์ ตกผลึกองค์ความรู้ให้ต่อยอดไป

ถ้าอยากประสบความสำเร็จเราต้องเปิดใจรับอุปสรรค อย่ากลัวที่จะก้าวลงไปในหลุมในบ่อ แต่การก้าวผ่านอุปสรรคจำเป็นต้องอาศัยการวางแผน การคิดการไตร่ตรองอย่างมีสติ เพื่อที่เมื่อเราก้าวลงไปแล้วจะได้กลับขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยครับ

ตลาดหุ้นก็เช่นเดียวกันครับ เมื่อเราอยากเป็นนักลงทุนหรือเป็นนักเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จ เราก็ต้องต่อสู้ ต้องพยายามจนถึงที่สุด เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ต้องฝึกฝน ศึกษา และหาประสบการณ์จริงจากตลาดหุ้น ผ่านช่วงที่สมหวัง และผิดหวัง


กำลังโหลดความคิดเห็น