xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ธนชาตแนะเพิ่มสัดส่วนลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เหตุนักลงทุนมั่นใจหันกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ. ธนชาตแนะ ภาวะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวดีขึ้นตามความคาดหวังว่าฝ่ายการเมืองของสหรัฐฯ จะสามารถหาข้อสรุปในการต่ออายุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการคลังเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Fiscal Cliff ได้ก่อนสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเพิ่มปริมาณเงินผ่านการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการตัดลดการขาดดุลงบประมาณ ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณดีขึ้น และความเสี่ยงในยุโรปที่คลี่คลายลงหลังกรีซได้รับการปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง ทำให้นักลงทุนมีมุมมองต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ดีขึ้น บลจ. ธนชาตเห็นว่าผู้ลงทุนที่รับความผันผวนของมูลค่าเงินลงทุนได้ควรทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ เช่น หุ้น หุ้นกู้ น้ำมัน ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะเมื่อราคาอ่อนตัวลง เพราะเชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝาก หรือพันธบัตรรัฐบาล ส่วนผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยควรพิจารณาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ

ภาวะตราสารหนี้
บลจ.ธนชาตประเมินว่า การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ประกอบกับความกังวลต่อปริมาณการออกจำหน่ายพันธบัตรในตลาดแรกของรัฐบาลในระยะต่อไป จะผลักดันให้ราคาพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือยาวในตลาดมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยน่าจะยังคงทรงตัวในระยะ 3-6 เดือนต่อจากนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและความเสี่ยงจากเงินเฟ้อยังมีไม่มาก แต่หากทิศทางเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง หรือมีกระแสเงินลงทุนไหลเข้าประเทศไทยในปริมาณที่มากเกินไป อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยอาจถูกปรับลดลงได้ ดังนั้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้จึงมีแนวโน้มทรงตัว ผันผวนต่ำ

ภาวะตราสารทุน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในระยะสั้นถูกกำหนดโดยปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะประเด็นการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ และการคาดหวังถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากธนาคารกลางสำคัญของโลก (เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารญี่ปุ่น) ทำให้ตลาดมีทิศทางแกว่งตัวตามความคาดหวังของนักลงทุน อย่างไรก็ดี แรงซื้อในประเทศจากการลงทุนในกองทุน LTF/RMF ประจำปี น่าจะช่วยประคองดัชนีได้ ในกรณีที่นักลงทุนกลับมากังวลต่อผลการเจรจาอีกครั้ง ส่วนในระยะกลาง มูลค่าหุ้นไทยที่ยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการคาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทในตลาด และเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ยังทำให้หุ้นไทยมีโอกาสให้ผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยงในระยะต่อไป

การลงทุนต่างประเทศ
ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นแรง หลังผู้นำขั้วการเมืองจากทั้งสองพรรคในสหรัฐฯ แสดงท่าทีที่ผ่อนปรนลงต่อแนวทางการเจรจาแผนการลดการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Fiscal Cliff และจากการที่กลุ่มเจ้าหนี้ 3 ฝ่ายอนุมัติแนวทางผ่อนปรนการชำระคืนหนี้ให้กรีซ พร้อมทั้งอนุมัติให้เงินกู้ก้อนใหม่ ทำให้ความเสี่ยงที่ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปจะปะทุขึ้นอีกครั้งลดลงในระยะสั้น กอปรกับตัวเลขเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัว ส่งผลให้นักลงทุนปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ส่วนความต้องการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำปรับลดลง โดยตราสารหนี้ภาครัฐฯ ของประเทศหลักที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ เยอรมนี เบลเยียม ถูกขายทำกำไร ขณะที่ความต้องการลงทุนในพันธบัตรของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาปรับตัวดีขึ้นจากการที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกลดลง ด้านประเทศในยุโรปซึ่งถูกกระทบจากปัญหาหนี้สาธารณะ เช่น สเปน และอิตาลี ได้รับอานิสงส์จากการอนุมัติแผนช่วยเหลือกรีซ ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศเหล่านี้ปรับลดลง

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น สินค้าเกษตร โลหะที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ว่าความต้องการจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณที่ดีขึ้น ด้านราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจัยข้างต้นและความกังวลต่อเหตุตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนในระยะสั้น จนกว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนขายทำกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง และเพิ่มการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อลดความเสี่ยงลง หากไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมในระยะต่อไป

บลจ.ธนชาตประเมินว่า ความกังวลเรื่อง Fiscal Cliff จะส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง ตามความคืบหน้าในการเจรจาแผนการตัดลดการขาดดุลงบประมาณ หรือจนกว่าจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวที่ชัดเจน และแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากแรงกดดันในการลดการขาดดุลงบประมาณของทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องที่สูงจากการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของกลุ่มประเทศหลักทั่วโลก และภาวะดอกเบี้ยต่ำ จะกระตุ้นให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ย และส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ดังนั้น ผู้ลงทุนที่รับความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุนได้บ้าง ควรพิจารณาทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเมื่อราคาปรับอ่อนตัวลง


กำลังโหลดความคิดเห็น