เอ็มเอฟซี คาด เอยูเอ็ม โตตามเป้า หลัง 11 เดือนแรกสินทรัพย์พุ่ง 10% โดยเติบโตทั้งกองทุนรวม-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
นางประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (เอยูเอ็ม) ทั้งหมดได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยหลักๆ เติบโตจากธุรกิจกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่งผลให้ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2555 มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 2.95 แสนล้านบาท ขณะที่สิ้นปี 2554 อยู่ที่ 2.68 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การเติบโตของบริษัทในช่วง 11 เดือนแรกคิดเป็น 10% จากสิ้นปีที่ผ่านมา โดยกองทุนรวมมีมูลค่าสินทรัพย์ จำนวน 168,141.48 ล้านบาท เติบโต 16,780.62 ล้านบาท หรือ 10.82% จากสิ้นปี 2554 อยู่ที่ 155,036.91 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีมูลค่าสินทรัพย์ จำนวน 105,423.15 ล้านบาท เติบโต 19,655.21 ล้านบาท หรือ 22.92% จากสิ้นปี 2554 อยู่ที่ 85,767.94 ล้านบาท ขณะที่กองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าสินทรัพย์จำนวน 21,507.92 ล้านบาท ลดลง 5,826.79 ล้านบาท หรือ 21.32% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 27,334.71 ล้านบาท
โดยปีนี้บริษัทออกกองทุนทาร์เกตฟันด์อย่างต่อเนื่อง และเฉพาะปีนี้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องจากทาร์เกตฟันด์ถึง 10 กองทุน โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ 1 กองทุน และกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นไทยเป็นหลัก 9 กองทุน
นอกจากนี้ ในเดือน ธ.ค.นี้ เอ็มเอฟซียังได้จ่ายเงินผลตอบแทนที่เข้าเป้าหมายครั้งที่ 1 ร้อยละ 5 ของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 55 (SPOT 55) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 55 ซีรีส์ 2 (SPOT 55S2) ซึ่งทาร์เกตฟันด์ทั้งสองกองทุนมีรูปแบบใหม่ คือ ตั้งเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 ภายใน 10 เดือน โดยทยอยจ่ายผลตอบแทนร้อยละ 5 รวมสองครั้ง
สำหรับ เอ็มเอฟซี เป็น บลจ.แห่งแรกที่นำทาร์เกตฟันด์เข้าสู่อุตสาหกรรมกองทุนรวมมานานกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีทาร์เกตฟันด์ที่ประสบความสำเร็จในการมอบผลตอบแทนตามเป้าหมายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนถึง 30 กองทุนด้วยกัน และเอ็มเอฟซียังคงมุ่งมั่นพัฒนาทาร์เกตฟันด์ให้มีความหลากหลายในนโยบายการลงทุน ตลอดจนการออกกองทุนในจังหวะที่เหมาะสมกับภาวะตลาดเพื่อโอกาสที่ดีในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
