คอลัมน์ Money Tips
วรวรรณ ธาราภูมิ
ได้อ่านหลายๆ บทความของต่างประเทศแล้วมักพบประโยคที่ว่า “ที่ของคุณผู้ชายคือตลาดหุ้น แต่ที่ของคุณผู้หญิงคือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์” นอกจากนี้ มักจะมีเรื่องเล่าว่าผู้หญิงหวาดกลัวการลงทุนมาก มากจนเสียโอกาสในการทำให้เงินงอกเงยไปอย่างน่าใจหาย
ผลสำรวจเรื่อง “ประสบการณ์กับพฤติกรรมของผู้หญิงในการลงทุน” ที่จัดทำโดย Prudential Financial ระบุว่า ผู้หญิงมุ่งความสนใจไปที่สมาชิกในครอบครัว และกลัวความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งความกลัวนี้อาจทำให้พวกเธอเพิ่มความเสี่ยงให้กับสุขภาพทางการเงินของครอบครัวโดยไม่รู้ตัว และผู้หญิงจำนวนมากที่มองตนเองเป็นผู้ออมมากกว่าผู้ลงทุน
แต่ผลสำรวจของ Prudential Financial ชุดนี้ก็ระบุด้วยเหมือนกันว่าผู้ชายส่วนใหญ่ก็มองตนเองเป็นผู้ออมมากกว่าผู้ลงทุนเหมือนกัน แม้จะไม่เป็นสัดส่วนมากเท่าผู้หญิง
เรื่องนี้ Julie Nelson (University of Massachusetts, Boston) กล่าวว่า “ความเชื่อที่ว่าที่ผู้ชายรับความเสี่ยงได้มากในขณะที่ผู้หญิงต้องอนุรักษ์นิยมนั้นมันเป็นเรื่องเหลวไหลพอๆ กับที่บางคนชอบบอกว่าถ้าผู้หญิงได้เป็นผู้บริหารธนาคารใน Wall Street ก็จะไม่เกิดเรื่องวิกฤติการเงินขึ้นมา แต่คนก็เชื่อกันอย่างนั้นโดยไม่มีใครตั้งข้อสงสัย นอกจากนี้ มันก็แปลก เพราะคนที่ทำวิจัยไม่เคยบอกเลยว่าทำวิจัยอย่างนี้ไปเพื่ออะไร แล้วได้อะไร ทั้งยังมีอคติจากความเชื่อฝังหัวมากกว่าด้วย”
มันก็จริงที่ว่าผู้หญิงไม่กล้ารับความเสี่ยงมากเท่าเด็กผู้ชายวัยรุ่น และมันก็มีผลให้ผู้หญิงมีเงินสะสมในกองทุนเพื่อการเกษียณต่ำกว่าพวกผู้ชาย อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่เพราะผู้หญิงมองตนเองเป็นเพียงผู้ฝากเงิน แต่เป็นเพราะผู้หญิงไม่ได้มีเงินเหลือไปลงทุนมากเท่าผู้ชายต่างหาก
ที่จริงแล้ว เราไม่สามารถแยกฐานะทางเศรษฐกิจออกจากการยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้ ในงานวิจัยเรื่อง “กระบวนการตัดสินใจลงทุนมีความต่างเพราะเพศหรือไม่” ที่ศึกษาโดย Lori Embrey และ Jonathan Fox เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ระบุว่า ผู้หญิงที่มีรายได้สูงลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้หญิงที่มีรายได้น้อย ซึ่งประเด็นสำคัญก็คือ ผู้หญิงทำรายได้ได้น้อยกว่าผู้ชายต่างหาก
ในหนังสือวิจัยเรื่อง “ทำไมผู้หญิงมีเงินน้อยกว่าผู้ชาย และเราจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง” ของ Mariko Chang ระบุว่า ผู้ชายในกลุ่มตัวอย่างที่เธอสำรวจรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากกว่าผู้หญิง ซึ่งไม่ใช่เพราะความเป็นผู้ชาย แต่เป็นเพราะพวกเขาเชื่อว่าหากขาดทุนจากหุ้นในช่วงสั้นๆ แล้ว ในอนาคตเขาจะหาเงินได้มากพอที่จะคุ้มการขาดทุนได้ ในขณะที่พวกผู้หญิงตอบว่าตนเองไม่มีความสามารถอย่างนั้น
นั่นก็คือความจริงที่ว่าการรับความเสี่ยงได้มากน้อยนั้นไม่ได้ขึ้นกับเพศ แต่ขึ้นกับฐานะและความสามารถในการทำเงิน โดยผลสำรวจพฤติกรรมการลงทุนเมื่อต้นปีนี้ของ Consumer Federation of America กับ Primerica ก็พบว่า คน 1 ใน 5 คนที่มีรายได้ต่อปีอยู่ในช่วง $30,000 - $100,000 จะลงทุนในหุ้นและพันธบัตร (ไม่ได้แค่อยู่ในบัญชีเงินฝากอย่างเดียว) ทันทีที่เขามีเงินสะสมถึง $1 ล้าน
นี่จึงเป็นผลสรุปว่า เหตุผลของการไม่ยอมรับความเสี่ยงสูงกว่าการฝากเงินมาจากฐานะทางการเงิน โดยคนที่มีรายได้สูงจะสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่า เพราะเสียหายอะไรไปบ้างก็ยังมีพอใช้ กับยังมั่นใจว่าจะหาเงินได้มากในอนาคต ส่วนคนที่มีรายได้ปานกลางก็ไม่กล้ารับความเสี่ยงสูงในสัดส่วนมากๆ แม้จะเห็นโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูง ก็เพราะหากเสียหายไปเขาจะเดือดร้อน และไม่มีโอกาสมากนักในการหาเงินมาแก้ตัว
เมื่อเป็นเช่นนี้ แนวคิดที่ว่า Lehman Brothers จะยังคงอยู่ไม่ล้มละลายตายจากไปถ้าเป็น Lehman Sisters ก็อาจจะเป็นจริง แต่ก็เป็นเพราะผู้หญิงทำรายได้ได้น้อยกว่าผู้ชาย มันจึงทำให้เธอห่วงว่าถ้าบริษัทเป็นอะไรไป เธอจะตกงานและเดือดร้อน นี่ก็เพราะผู้หญิงที่ทำงานในสถาบันการเงินและการลงทุนมีรายได้เพียง 55%-62% ของที่ผู้ชายในตำแหน่งหน้าที่เดียวกันนั่นเอง
มันไม่ใช่เพราะฮอร์โมนเพศหญิงจะไปช่วยห้ามการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงสูงเลย