โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง
• นายกรัฐมนตรีอิตาลีเดินทางไปสเปนเพื่อโน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรีสเปนขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป หลังจากที่สเปนยังคงยืนกรานไม่ขอรับความช่วยเหลือ จนทำให้ความวิตกกังวลต่อวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
• ราคาที่อยู่อาศัยของอังกฤษในเดือน ต.ค.ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนและลดลง 0.4% จากปีก่อน และลดลง 4 เดือนติดต่อกัน แสดงว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษยังไม่ฟื้นตัวแม้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเพิ่งกระเตื้องจากสภาวะถดถอยในไตรมาสที่ผ่านมา
• ธนาคารกลางของอังกฤษเตือนว่า เศรษฐกิจอังกฤษยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอแม้ไตรมาส 3 จะโตกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากที่โตขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากฐานที่ต่ำในไตรมาสก่อนเพราะมีช่วงเฉลิมฉลองการครองราชย์ของ Queen Elizabeth
• นครนิวยอร์กสั่งอพยพประชาชน 375,000 คนออกจากพื้นที่แนวชายฝั่ง รวมทั้งสั่งปิดโรงเรียน ระบบขนส่ง และตลาดหลักทรัพย์วานนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือพายุเฮอริเคน Sandy ที่สื่อมวลชนเรียกว่า Frankeinstorm เพราะมีโอกาสสูงที่จะร้ายแรงมาก
• การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 0.8% จาก 0.5% ในเดือนก่อน จากรายได้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 0.4% อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากการใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
• จากผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 67 ราย พบว่ามีมุมมองเป็นบวกน้อยลงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดย 2 ใน 3 คาดว่า GDP จะโตเพียง 1.1-2.0% เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายภายในประเทศและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
• ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% ชะลอลงจาก 1.7% ในเดือนก่อน จากยอดขายรถยนต์ที่ลดลง 13.9% หลังมาตรการอุดหนุนการซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานสิ้นสุดลง
• ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ลดลงติดต่อกัน 2 เดือน สู่ 70 จุดจาก 72 จุดในเดือนก่อน และยังต่ำกว่า 100 แสดงว่าส่วนใหญ่ยังขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในอนาคต
• ธนาคารในเกาหลีใต้มีผลประกอบการไตรมาส 3 ลดลง 4.1% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยลดลงหลังจากธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลดลงเหลือ 2.75% และลดลง 0.23% จากปีก่อน
• ฮ่องกงประกาศเรียกเก็บภาษีชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอัตรา 15% เพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาเก็งกำไรอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Fed ประกาศใช้มาตรการ QE3 จนทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในฮ่องกงพุ่งขึ้นมาอยู่ในระดับแพงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ฮ่องกงยังปรับขึ้นภาษีการขายบ้านมือสองอีก 5% และจะคงอัตราดังกล่าวไปอีก 3 ปี
• รัฐบาลอินเดียประกาศแผนลดขาดดุลงบประมาณลงให้เหลือ 3% ต่อ GDP ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากที่ขาดดุล 5.3% ต่อ GDP ในปีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการให้ธนาคารกลางอินเดียลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมวันนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลง
• Moody’s ขึ้นอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์เป็น Ba1 จากเดิม Ba2 เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะกลางที่ดี มีโครงสร้างทางการเงินที่มีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลและกลุ่มกบฏที่เกาะ Mindanao ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นบริเวณที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านการเกษตรกับธุรกิจเหมือง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของประเทศในระยะยาวได้
• ก.คลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะโต 5.5% เท่าที่ประเมินครั้งก่อน โดยปีหน้าจะโต 5.2% เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ ขณะที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจในยูโรโซนและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาส 3 จะเติบโตได้ระหว่าง 3.5% ถึง 4.5% และไตรมาส 4 จะโตได้ 12% ถึง 14%
• สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะมีแผนการกู้เงินรวม 2.04 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณ 2556 ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะ ณ สิ้นปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 47% ต่อ GDP จาก 44.89% ในปัจจุบัน
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,279.57 จุด ลดลง 2.24 จุด หรือ 0.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25,403 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 593 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวในกรอบแคบเนื่องจากยังคงไม่มีปัจจัยใหม่มาสนับสนุนตลาด และยังคงมีแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลค่อนข้างทรงตัว มีการปรับตัวในช่วงแคบเพียง -0.01% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 1 / 3 / 6 และ 12 เดือน รวม 135,000 ล้านบาท