การเมืองยุโรปฉุดน้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯ ลงแรง ทองคำปิดบวก

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้ (4) ดิ่งลง จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ประกอบกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในอิตาลีและสเปน ขณะที่ความตึงเครียดดังกล่าวก็ยังผลักให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดันราคาทองคำปิดในแดนบวก

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“ทุกปัจจัยของวันนี้ คือการถอยกลับจากที่ขยับขึ้นอย่างแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว” แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์จากชไนเดอร์ อเล็กทริคกล่าว “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากความรู้สึกทางบวก รวมถึงยูโรที่แข็งค่าขึ้น และวันนี้ สิ่งที่เราเห็นก็คือการถอย ขายทำกำไรของนักลงทุน”

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของตลาดหุ้นทั่วยุโรป เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่วานนี้ (4) ขยับลงอย่างแรงในช่วงท้ายของการซื้อขาย จากความกังวลต่อสถานการณ์ในยุโรป หลังซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี ผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศนโยบายหาเสียงยกเลิกภาษีทรัพย์สิน รวมถึงคืนเงินภาษีในส่วนที่มีการจ่ายมาแล้ว

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 129.21 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,880.54 จุด แนสแดค ลดลง 47.93 จุด (1.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,131.17 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.42 จุด (1.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,495.75 จุด

นอกจากสถานการณ์ในอิตาลีแล้ว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเคลื่อนไหวตามความตึงเครียดทางการเมืองในสเปนเช่นกัน หลังนายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราจอย กำลังถูกกดันให้ลาออกจากตำแหน่งท่ามกลางเรื่องราวคอร์รัปชันอันอื้อฉาว

ปัจจัยข้างต้น เป็นผลให้นักลงทุนหันเข้ามาเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และผลักราคาทองคำวานนี้ (4) ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,676.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์