การบริหารจัดการความมั่งคั่ง

Design your life by Mutual Fund
โดย ดร.ศุภกร สุนทรกิจ
บริษัทจัดการกองทุน เกียรตินาคิน จำกัด
www.kk-fund.com
02 624 8555 กด 2

“มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์” สุภาษิตไทยที่ทันสมัยเสมอ ผู้ใหญ่สมัยก่อนสั่งสอนเราให้ประหยัด เก็บเงินส่วนหนึ่งจากการทำงานไปฝากธนาคารเพื่อเป็นทุนทำมาค้าขาย สร้างบ้าน สร้างครอบครัว หรือที่เราให้คำนิยามว่า ความมีอิสรภาพทางการเงิน ตอนนี้นวัตกรรมทางการเงินมีกองทุนรวมใหม่ ๆ มากมายที่สร้างผลตอบแทนที่ดีและตอบโจทย์การลงทุนของผู้ลงทุนได้ชัดเจนขึ้น เช่น จากการซื้อที่ดิน ตึกแถวหรือทองคำ ก็ปรับรูปแบบเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนรวมทองคำที่ผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ตามจำนวนเงินที่ต้องการและมีสภาพคล่องสูงกว่าซื้อทรัพย์สินโดยตรง ด้วยเหตุที่มีผลิตภัณฑ์การเงินแบบใหม่ กองทุนรวมแบบใหม่ออกมา กลยุทธ์การบริหารความมั่งคั่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ท่านผู้ลงทุนทุกท่านประสบความสำเร็จ

การบริหารความมั่งคั่งที่ประสบความสำเร็จต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นอย่างแรก เช่น เป้าหมายที่จะมีเงิน 50 ล้านบาทก่อนอายุ 50 ปี หรือเป้าหมายที่จะมีเงินใช้หลังเกษียณทุกเดือนไปเรื่อยๆ หรือเป้าหมายที่จะได้เดินทางไปต่างประเทศปีละ 1 ครั้ง เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว เราต้องจัดสรรเงินลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เกณฑ์การจัดสรรเงินลงทุนที่ท่านผู้ลงทุนควรพิจารณาคือ จำนวนเงินที่ท่านต้องการในแต่ละเป้าหมาย ระยะเวลาในการลงทุน และความเสี่ยงที่รับได้ เช่น จัดสรรลงทุน 10 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 20 ปี เพื่อรับผลตอบแทนเป็นเงินใช้หลังเกษียณเดือนละ 30,000 บาททุกเดือนและมีสิทธิรับโบนัสพิเศษทุกปี เป็นต้น เกณฑ์นี้จะช่วยให้ท่านผู้ลงทุนเห็น Wealth ทั้งหมดของท่าน

เครื่องมือการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เงินลงทุนที่ท่านได้จัดสรรสร้างผลตอบแทนให้ท่านตามเป้าหมาย กองทุนรวมสามัญประจำพอร์ตการลงทุนที่ทุกท่านควรจะมีคือ กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมตราสารทุนและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ก็ได้

วิธีการคัดเลือกกองทุนมาเข้าพอร์ตของท่านอย่างแรกที่ควรพิจารณา คือ ประเภทของสินทรัพย์ และแนวทางในการบริหารจัดการ แน่นอนถ้าเป็นกองทุนรวมตราสารทุนต้องลงทุนในหุ้นแน่ๆ แต่หุ้นที่จะลงทุนมีหลายแบบด้วยกัน หุ้นปันผล หุ้นเติบโต หุ้นขนาดใหญ่ วิธีบริหารจัดการก็แตกต่างออกไป ทั้งแบบเกาะดัชนี และแบบเชิงรุกที่มีการซื้อๆขายๆตามภาวะตลาด ตัวช่วยในการเลือกคือผลการดำเนินงาน แม้ว่าผลการดำเนินงานในอดีตอาจไม่ได้เป็นตัวกำหนดผลตอบแทนในอนาคต แต่ก็สามารถบ่งบอกพฤติกรรมของกองทุนได้ในระดับหนึ่ง และควรเลือกกองทุนที่มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับต้นๆ เมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง ไม่จำเป็นต้องเป็นต้องเป็นอันดับหนึ่ง และควรดูความสม่ำเสมอของผลการดำเนินงานประกอบด้วย ปัจจุบัน มีกองทุนประเภทใหม่ที่ KKFund พัฒนาขึ้น เป็นกองทุน life style ที่ตอบสนองความต้องการของท่านผู้ลงทุนโดยการจัดสรรพอร์ตการลงทุนให้เลย ท่านผู้ลงทุนเพียงแต่บอกความต้องการของท่านเท่านั้น

ข้อแนะนำประการสุดท้าย คือ ทบทวนเป้าหมาย ปรับพอร์ตเป็นระยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เงินลงทุนและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยทั่วไป บลจ.ต่าง ๆ จะให้ข้อมูลการลงทุนและแนวโน้มของตลาดให้ท่านผู้ลงทุนในทราบ ซึ่ง KKFund ก็มีบริการให้ข้อมูลและแนะนำการลงทุนสำหรับท่านผู้ลงทุน โดย KKFund พัฒนาระบบKK Quant และ KK Risk Indicator เพื่อจับจังหวะการลงทุนในแต่ละช่วงสถานการณ์เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการปรับพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการทดสอบกับกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพของ KK Fund หากนักลงทุนทำการสับเปลี่ยนทุกครั้งที่ สัญญาณ KK Risk Indicator เตือนนักลงทุนสามารถลดผลการขาดทุนและเพิ่มผลตอบแทนเฉลี่ยขึ้นเป็นปีละ 25.84 %

การบริหารจัดการความมั่งคั่งเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ผสมผสานระหว่างข้อมูล กลยุทธ์และการตัดสินใจตามจังหวะเวลา KKFund เชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายความมั่งคั่งได้เสมอ และเราพร้อมจะให้คำปรึกษาท่านเสมอครับ

มีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้า 02 624 8555 กด 2 หรือ www.kk-fund.com