แบงก์กรุงศรีฯ ยกระดับบริการบริหารความมั่งคั่ง ปรับภาพลักษณ์-รูปแบบบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ” เน้นดูแล 4 ด้านหลักครอบคลุมทุกด้าน ตั้งเป้าติด 1 ใน 3 ผู้นำธุรกิจใน 3 ปี
นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานเงินฝากและการลงทุน และประกันภัยธนพัทธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของธนาคารมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ดังนั้น ธนาคารจึงเห็นโอกาสในการรุกธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยเริ่มจากการปรับภาพลักษณ์ของธุรกิจดังกล่าวให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับแบรนด์กรุงศรี ภายใต้ชื่อ “กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ” พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว
พร้อมธนาคารได้พัฒนาสิทธิประโยชน์ของกรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ให้ครอบคลุมบริการใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การดูแลและบริหารความมั่งคั่งโดยมืออาชีพ (Relationship sales & services) การจัดพอร์ตการลงทุนที่เคียงข้างความสำเร็จทุกช่วงชีวิต (Investment advisory services) ศูนย์บริการกรุงศรีเอ็กซ์คลูซีฟ (Customer touch point / location) และเอกสิทธิ์พิเศษ (Segmentation proposition) โดยการพัฒนาสิทธิประโยชน์ดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจความต้องการลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง (High Net Worth) ของไทเลอร์ เนลสัน ซอฟเฟรส (TNS) บริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำระดับโลกที่ศึกษาความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน และกลุ่มเป้าหมายในช่วงเดือนมกราคม 2555 ที่ผ่านมา
“ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (เงินฝาก ประกัน เงินลงทุน) รวม 3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20% หรือมีลูกค้า 2.5 หมื่นราย แต่คิดเป็นฐานเงินฝากสูงถึง 30% ของฐานเงินฝากรวมทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุ 40-50 ปี และการปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้เพื่อเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น”
ทั้งนี้ ด้วยการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย และสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ธนาคารเชื่อว่าจะสามารถผลักดันบริการ “กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ” ให้ก้าวขึ้นติดอันดับ 1 ใน 3 ผู้นำของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งได้ใน 3 ปี และได้ตั้งเป้าเติบโตของสินทรัพย์ไว้ที่ 20% สำหรับปีนี้
คาดแข่งระดมเงินฝากยังดุ
นายกฤษณ์กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังมองว่า การแข่งขันในการระดมเงินฝากของระบบธนาคารพาณิชย์จะยังรุนแรงเช่นเดียวกับช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ต่างเร่งระดมเงินเพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อให้ได้ตามเป้าหมาย และแต่ละแห่งมีการวางเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้สูงเป็นเลขสองหลักทั้งสิ้น จึงเชื่อว่าจะยังมีการแข่งขันด้านราคา และผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลายกันต่อไป
