กบข.ลั่นพร้อมจ่ายเงินข้าราชการเกษียณตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท แนะเลือกวิธีโอนเข้าธนาคารดีสุด เหตุการใช้ธนาณัติอาจสูญหายได้ ระบุสมาชิกสามารถออมเงินต่อผ่าน กบข.ได้อีกหากไม่ต้องการใช้เงิน แถมได้ยิลด์ดีกว่าเงินฝากธนาคาร
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ กบข.จะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินคืนให้สมาชิกที่พ้นสภาพจำนวน 33,000 คน รวมประมาณ 25,000 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งเป็นสมาชิกที่เกษียณอายุราชการจำนวน 15,000 คน เกษียณก่อนกำหนด (Early retire) ประมาณ 18,000 คน
“สมาชิกส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการทหาร และข้าราชการตำรวจ ซึงน่าจะได้รับการจ่ายเงินคืนภายใน 7 วันทำการหลังจาก กบข.ได้รับเอกสารที่ครบถ้วนถูกต้อง”
สำหรับรูปแบบการจ่ายเงินคืนสมาชิกสามารถเลือกได้ 3 วิธี ได้แก่ 1) โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร 2) สั่งจ่ายเช็คขีดคร่อม และ 3) ธนาณัติ
อย่างไรก็ดี กบข.แนะนำให้สมาชิกเลือกวิธีโอนเงินเข้าบัญชีของสมาชิกซึ่งจะสะดวกและรวดเร็วที่สุด ขณะที่การขอรับเงินคืนวิธีอื่นนั้นจะมีข้อจำกัดสำหรับสมาชิก เช่น เช็คและธนาณัติสั่งจ่ายจะกำหนดวันหมดอายุ หากสมาชิกไม่นำไปขึ้นเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องติดต่อกลับมายัง กบข.เพื่อขอให้ดำเนินการสั่งจ่ายเงินคืนใหม่ ทำให้สมาชิกได้รับเงินคืนล่าช้าออกไปอีก
นอกจากนี้ ธนาณัติยังมีข้อจำกัดอีกหนึ่งประการ คือ สั่งจ่ายเงินคืนให้สมาชิกได้เพียงฉบับละ 50,000 บาท หากยอดเงินจ่ายคืนสมาชิกเกินกว่าจำนวนดังกล่าวต้องออกธนาณัติหลายฉบับ ที่ผ่านมาสมาชิกหลายรายทำธนาณัติบางฉบับสูญหายก่อนนำไปขอขึ้นเงินต้องกลับมาขอให้ กบข.สั่งจ่ายเงินใหม่อีกครั้ง
นางสาวโสภาวดี กล่าวอีกว่า ในส่วนของสมาชิกที่เกษียณและไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน หรือต้องการบริหารเงินออมให้ต่อเนื่อง แนะนำให้สมาชิก “ออมต่อ” กับ กบข. ซึ่งสมาชิกสามารถเลือกได้ว่าจะออมต่อทั้งจำนวน หรือขอรับเงินเป็นรายงวด หรือนำเงินออกไปบางส่วนเพื่อใช้จ่าย และ กบข.จะนำเงินของสมาชิกไปลงทุนเพื่อหาดอกผลให้งอกเงย โดยผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการออมต่อจะได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกมากกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์เพราะดอกเบี้ยเงินฝากจะถูกหักภาษี นอกจากนี้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ กบข.บริหารให้ที่ 7% ต่อปียังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเฉลี่ยที่ 3.5%