xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยประกันชีวิตดันขายตรง จับมือแอร์เอเชียขยายฐานลูกค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมืองไทยประกันชีวิตดึงแอร์เอเชียดันยอดขายตรง จับมือออกกรมธรรม์พิเศษขายลูกค้าแอร์เอเชียกว่า 10 ล้านคน พร้อมมอบสิทธิพิเศษเพียบ เล็งหาพันธมิตรเพิ่มอีก หวังขยายฐานลูกค้ามากขึ้น

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเมืองไทย ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า ช่องทางการตลาดขายตรงของบริษัทปัจจุบันเติบโตมากขึ้นสวนทางกับอุตสาหกรรมประกันชีวิตที่ช่องทางนี้มีตัวเลขการขยายตัวติดลบ โดยล่าสุดบริษัทได้ทำความร่วมมือกับสายการบินแอร์เอเชียและ Tune Money และเชื่อว่าน่าจะทำให้ช่องทางดังกล่าวขยายตัวมากขึ้นหลังจากนี้

“ความร่วมมือครั้งนี้น่าจะช่วยขยายช่องทางขายตรงของเรา ซึ่งเราจะเป็นผู้ขายเจ้าเดียวของแอร์เอเชียในไทย และเราก็ได้เตรียมทีมขายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าแอร์เอเชียเอาไว้แล้ว โดยหลังจากนี้บริษัทน่าจะมีพันธมิตรในลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีก และขณะนี้กำลังมีการเจรจากันอยู่อย่างน้อยก็ 1 แห่ง”

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้บริษัทได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ภายใต้โครงการ AirAsia INSURE A-HIP ที่จะเน้นให้ความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และอุบัติเหตุแบบพิเศษ เฉพาะลูกค้าของแอร์เอเชียโดยเฉพาะ

นอกจากนี้บริษัทยังทำความตกลงเพื่อลูกค้า โดยสมาชิกเมืองไทยสมายล์คลับทุกท่านสามารถนำคะแนนสะสมเมืองไทยสมายล์พอยต์มาแลกเป็นบิ๊กพอยต์ เพื่อแลกตั๋วเครื่องบินกับสายการบินแอร์เอเชียได้อีกด้วย

ขณะที่ลูกค้าของแอร์เอเชียที่ซื้อแบบประกันชีวิตภายใต้โครงการนี้ สามารถสมัครเป็นสมาชิกเมืองไทยสมายล์คลับฟรีเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนลดร้านอาหารและโรงแรมที่พักทั่วประเทศ

ด้าน นายปีเตอร์ มิลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tune Money กล่าวว่า ความร่วมมือในลักษณะนี้กับทางบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตถือเป็นประเทศที่ 3 หลังจากที่บริษัทได้ทำความร่วมมือในลักษณะนี้ไปแล้วในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งบริษัทเชื่อว่าน่าจะประสบความสำเร็จเหมือนกับในต่างประเทศที่มีการสำรวจมา

“ภาพรวมประกันชีวิตในไทยนั้น คนไทยยังถือกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่น้อยเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว และเชื่อว่าโปรแกรมนี้น่าจะทำให้คนไทยเข้าถึงการประกันชีวิตได้มากขึ้น ซึ่งแอร์เอเชียปัจจุบันมีฐานลูกค้าประมาณ 8-10 ล้านรายต่อปี และในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นอีก 15% ทำให้เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้น่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างดี”


กำลังโหลดความคิดเห็น