บลจ.กรุงไทย-กรุงศรีเปิดขายกองบอนด์ระยะสั้นจ่ายยิลด์สวย

2 บลจ.กรุงไทย และ บลจ.กรุงศรีส่งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ล็อกเงินไม่เกิน 1 ปีให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 3.15% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนพร้อมกันแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 11 กันยายน 2555

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ มีมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย ยกเว้นตราสารระยะสั้นรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี โดยมีทิศทางปรับลดลง 2-6 bp แกว่งตัวในช่วง 2.83-3.04% ขณะที่ตราสารระยะกลางถึงยาวปรับขึ้น 1-18 bp หลังการส่งสัญญาณจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ตลาดตีความว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงระดับที่ 3.00% ต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี

ขณะที่นักลงทุนเริ่มลดความคาดหวังต่อมาตรการ QE3 ซึ่งล่าสุด Ben Bernanke ได้กล่าวสุนทรพจน์ ที่ไม่ได้บ่งบอกการจะเริ่มใช้ QE3 แต่ยังให้ความหวังต่อตลาดที่จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อลดอัตราการว่างงาน สำหรับสัปดาห์นี้ตลาดค่อนข้างให้ความสำคัญต่อผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของยุโรป เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลต่อทิศทางอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้

โดยในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 42 (KTSUPB 42) เสนอขายระหว่างวันที่ 4-11 กันยายน 2555 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินฝากประจำ The Commercial Bank of Qatar, เงินฝากประจำ Bank of China สาขามาเก๊า และเงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank ในสัดส่วน 45% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก ตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย และตราสารการเงินภาครัฐไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.20% ต่อปี

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (KTSF) ครั้งที่ 3/2555 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 กรกฎาคม 2555-28 สิงหาคม 2555 ในอัตรา 0.75 บาทต่อหน่วย โดยจะทำการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 5 กันยายน 2555 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 12 กันยายน 2555 รวมเป็นเงินประมาณ 21 ล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุน KTSF เป็นกองทุนเปิดที่มีผลการดำเนินงานที่ดี สามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 2 ครั้ง สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 มกราคม 2555 จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.45 บาทต่อหน่วย และรอบระยะเวลาบัญชีระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-31 มีนาคม 2555 จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย

อย่างไรก็ตาม กองทุน KTSF มีผลการดำเนินงานสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark) ที่กำหนดไว้ โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2555 ผลการดำเนินงานของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 9.95% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 8.11% ย้อนหลัง 9 เดือนอยู่ที่ 26.82% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 20.15% และ YTD อยู่ที่ 20.15% ส่วนเกณฑ์มาตรฐาน ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 9.90% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 7.94% ย้อนหลัง 9 เดือนอยู่ที่ 26.18% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 18.23% และ YTD อยู่ที่ 20.60%

ด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศพร้อมกัน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M35 (KFFIX6M35) อายุประมาณ 6 เดือน โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 11% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 9% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% และเงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% ประมาณการอัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.15% ต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 1Y2 (KFFIX1Y2) อายุประมาณ 1 ปี โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 22% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Itau Unibanco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 19% และตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Bradesco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 19% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.40% ต่อปี ทั้งนี้ หลังครบกำหนดอายุโครงการของแต่ละกองทุนบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป

“บลจ.กรุงศรีมองว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และเชื่อมั่นว่าจะมีเงินลงทุนบางส่วนที่ครบกำหนดจากพันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติจำนวนกว่า 2 แสนล้านบาทเข้ามาลงทุนในกองทุน KFFIX6M35 และกองทุน KFFIX1Y2 เป็นจำนวนมาก เนื่องจากทั้งสองกองทุนเสนอผลตอบแทนใกล้เคียงกับการลงทุนในพันธบัตรล็อตใหม่อายุ 6 ปีที่เปิดเสนอขายแต่กองทุนให้สภาพคล่องสูงกว่ามาก ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังเน้นการออกกองทุนที่กำหนดระยะเวลาซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับสภาวะตลาด เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร คาดว่ากองทุนทั้งสองดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี”