คอลัมน์รวยด้วยรัก...รวยด้วยหุ้น
โดย โดยมนตรี ศรไพศาล (montree4life@yahoo.com; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)
ผมได้มีโอกาสไปชมภาพยนตร์เรื่อง Batman อัศวินรัตติกาลผงาด ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เป็นอีกเรื่องที่สนุกสนาน เร้าใจ อลังการตลอดเรื่อง และมีบทเรียนของชาวเมืองก็อทแธมเป็นแรงบันดาลใจ ดังนี้
1.สูตรสำเร็จของผู้หวังอำนาจเผด็จการ คือ “ช่วยเหลือคนจน...ให้ได้รับความเป็นธรรม” เบน ผู้กระหายอำนาจเหนือเมืองก็อทแธม ซ่องสุมกำลังใต้ดิน ตามแนวทางระบายน้ำ ใช้คำหวานให้กับประชาชนราวกับสูตรสำเร็จว่า มาเพื่อ “ช่วยคนจน” ทำเพื่อ “ทวงหาความเป็นธรรมให้คนยากคนจน”
เบน ยังได้พูดจาสร้างความสับสนว่า “คนจนถูกเอาเปรียบ โดยอ้างว่าทุกคนได้รับ ‘โอกาส’ ที่เท่าเทียมกัน” ทั้งๆที่ความเป็นจริง สังคมเศรษฐกิจเสรี ประชาธิปไตยนั้น ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน จะก้าวหน้าเพียงใด ก็ขึ้นกับแต่ละคนจะเลือกทางเดินของตัว สตีฟ จ็อบ ก็เติบโตแบบเด็กกำพร้า ได้รับความช่วยเหลือจากคริสตจักร จนเป็นผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิ้ล ไมเคิล แจ็คสัน ก็เติบโตก้าวหน้าในครอบครัวที่ยากจน จนเป็นซุปเปอร์สตาร์ เรื่องผิวสี เรื่องชนชั้น ก็ไม่มีแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเราได้ประธานาธิบดีผิวสีคนแรก คือ ประธานาธิบดีโอบามา
2.ธาตุแท้ของผู้หวังอำนาจเผด็จการ คือ “ไม่ได้สร้าง...ไม่ได้ให้” เพียงแต่ “ข่มขู่ ด้วยการทำลาย” และ “เอาประโยชน์มาให้อีกกลุ่ม จากกลุ่มอื่นและอ้างบุญคุณ” เบน ผู้ยึดอำนาจเหนือเมืองก็อทแธม ได้ใช้อำนาจ “กดขี่” ด้วย “พลังแห่งการทำลาย”
...อุปกรณ์ปฏิกรณ์ปรมาณู เพื่อสร้างพลังงานสะอาด ก็ถูกดัดแปลงให้เป็นระเบิดปรมาณูเพียงเพื่อจะข่มขู่เอาอำนาจ
...ระเบิดสะพาน เผาตึก ถล่มถนน ฯลฯ เพียงแต่ทำลายบ้านเมืองให้ง่อยเปลี้ย
...ทำลายตลาดหุ้น ด้วยเป้าหมายให้คนจนเกลียดชังว่า เป็นแหล่งเงินสำหรับคนรวย
เมื่อยึดอำนาจแล้ว ก็ปราศรัยว่า จากนี้ไป ทำอะไรก็ได้ เริ่มต้นจาก แหกคุก ปล่อยอาชญากรออกจากคุกเสียก่อน กฎหมายบ้านเมืองไร้ความหมาย บรรดาชาวอธรรมครองเมืองเกลื่อนเมือง หากกฎหมายเอาผิดอาชญากรไม่ได้ คนที่ปล้นคนอื่น ทำร้ายคนอื่น แล้วไม่ต้องรับโทษแล้วสังคมจะยังรักษาความชอบธรรมกันอยู่ได้อย่างไร ?
ความเป็นนักทำลาย นักกดขี่ อ้างว่าช่วยคนจน ให้เสรีภาพว่า ใครอยากได้อะไรก็เอาได้ แล้วเอาเข้าจริงๆ จะได้อะไร ? จะช่วยคนจนได้อย่างไร ? หากสิ่งที่ทำ คือ ทำให้ทั้งประเทศยากจนลง... มันก็เพียงแต่ทำให้คนจนโกรธเกลียดชิงชัง มองข้ามเหตุผล และหวังเอาคนจนเป็นโล่ห์มนุษย์ป้องกันตัวเท่านั้นเอง
3.การแก้ไขปัญหา ไม่ใช่รอให้คนอื่นแก้ เราประชาชนต้องแก้ไขกันเอง ผู้บัญชาการตำรวจกอร์ดอน เมื่อฟื้นจากความบาดเจ็บ ก็วิ่งไปหาผู้ช่วย ซึ่งท้อแท้ กลับมาอยู่กับครอบครัว ปล่อยให้เบนครองเมือง
ผู้ช่วยของเขาบอกว่า เขารับจ้างมาเป็นตำรวจ ทำงานรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่สถานการณ์ภายใต้อำนาจของเบนหนักเกินไป เขาอยากเห็นรัฐบาลกลาง มาแก้ปัญหาให้ก่อน แล้วตนจึงจะออกมาสู้
แต่ผู้บัญชาการกอร์ดอนบอกว่า นี่เป็นเรื่องของเรา เราจะวางเฉย ปล่อยให้อธรรมครองเมือง บ้านเมืองย่อยยับ หรือจะร่วมกันต่อสู้ ก็แล้วแต่เรา แต่ถ้าเราไม่สู้ และให้อธรรมกรองเมือง เราก็ต้องอยู่ในความทุกข์ลำบากภายใต้การกดขี่ต่อไป
บรูซ เวนน์ มหาเศรษฐีเจ้าของ เวนน์ เอนเทอร์ไพรซ์ ผู้สวมหน้ากากแบทแมนช่วยเหลือตำรวจเพื่อผดุงคุณธรรม เขาเองกลับถูกทำร้าย การทำให้เขาจนลง เขารับได้ แต่การที่เขาต้องดูเมืองของเขาล่มสลาย กลายเป็นตัวประกันด้วยการวางระเบิดปรมณูทำลายร้าย เขารับไม่ได้ และเขาก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่ยืนหยัดว่า ปัญหาการรักษาความชอบธรรมในบ้านเมืองนั้น แต่ละคนจะหวังให้คนอื่นทำไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันรักษาเอาเอง
ผมดูแล้วนึกถึงแรงบันดาลใจแบบระบอบ “คอมมิวนิสต์” เป็นความพยายามจะสร้างฐานอำนาจ โดยหาทางเอาคนจนส่วนใหญ่ให้เป็นพวก ด้วยหลักการ “เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ คนยากจนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” พยายามสร้างความรู้สึก เปรียบเทียบ น้อยใจ ให้ประชาชน โกรธ แค้น ชิงชัง จนเกิดการล้มล้างอำนาจรัฐ
...เขมรแย่งอำนาจกัน ด้วยหลักการเป็นวีรบุรุษของคนจน จนต่อสู้กันเป็นสงครามกลางเมือง มีประชาชนเสียชีวิต กว่า 2 ล้านคน
...เวียดนามเหนือเป็นคอมมิวนิสต์ ยึดครองได้ทั้งประเทศ แต่ความแจริญของฮานอย (เมืองหลวงเวียดนามเหนือ) กลับสู้โฮจิมินต์ (เมืองหลวงเวียดนามใต้) ไม่ได้ ประชาชนหางานทำได้ยากกว่า
...เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศเสรีนิยม ประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิเท่าเทียมกัน รัฐบาลใช้ภาษีบางส่วนช่วยเหลือคนยากจน ก็เท่ากับเอาภาษีซึ่งจากมากกว่าโดยคนรวย มาช่วยเหลือคนจนอยู่แล้ว ประเทศเสรีเช่นนี้ ก็ยอมรับความแตกต่างของฐานะ ขึ้นกับใครทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย (ไม่ใช่ โกงมากได้มาก โกงน้อยได้น้อย)
แต่เกาหลีเหนือ เป็นประเทศคอมมิวนิสต์
ที่สุดแล้ว ประเทศคอมมิวนิสต์ ที่ต้องล่มสลาย เพราะ เขาทำให้ประชาชนมีฐานะเท่าเทียมกันได้จริง คือ “จนเหมือนกันหมด” ชาวเกาหลีใต้ (ประชาธิปไตย) มีรายได้ต่อหัวเฉลี่ย สูงเป็นประมาณ 15 เท่า ของประชาชนกำลีเหนือ !
แล้วเราจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไปทำไม ? เราก็คงช่วยกันรักษาใจของเรา ไม่ให้หลงกับเพียงคำว่า “ช่วยคนจน” แต่ให้เราร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้อยู่ในทางชอบธรรม สร้างสรรค์มากกว่าทำลาย รักกันมากกว่าเกลียดกัน ช่วยเหลือกันมากกว่าทำร้ายกัน
ผมเชื่อว่า สังคมไทยจะเป็นสังคมที่งดงาม และจะเป็นบ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนครับ