บลจ.กสิกรไทยประเมินผลการประชุม EU Summit ส่งผลบวกแค่ระยะสั้นๆ ทั้งหุ้น และคอมมอดิตี พร้อมแนะนักลงทุนล็อกผลตอบแทนกับกองทุนตราสารหนี้ 4 กองทุนใหม่ที่ลงทุนทั้งในและนอกประเทศ เปิดขายครั้งเดียว 3-9 กรกฎาคมนี้ ชูผลตอบแทนปลอดภาษีสูงสุด 3.25% ต่อปี
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ผลการประชุม EU Summit เมื่อวันศุกร์ (29 มิถุนายน) ที่ผ่านมาจะมีความคืบหน้าในมาตรการแก้ไขปัญหามากขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และถือเป็นข่าวดีต่อตลาดหุ้น รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน และทองคำ ที่ปรับตัวขึ้น แต่ บลจ.กสิกรไทยยังเห็นว่านโยบายดังกล่าวน่าจะส่งผลดีในช่วงสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากยังต้องรอดูผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว ในขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศเริ่มเป็นโจทย์ที่ยากขึ้น เนื่องจากเงินลงทุนจากทุกแหล่งต่างมุ่งไปหาผู้ออกตราสารที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดและให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีที่สุด ซึ่งความต้องการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นนี้เองที่ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากตราสารหนี้ในต่างประเทศที่ยังคงมีคุณภาพเริ่มปรับตัวลง และแนวโน้มเช่นนี้อาจเกิดขึ้นไปจนกว่าปัญหาหนี้ยุโรปจะคลี่คลาย
“แม้ว่า บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการพร้อมกันถึง 4 กองทุน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่มีการจัดสรรเงินลงทุนในระยะเวลาต่างๆ กัน แต่จากแนวโน้มผลตอบแทนในอนาคตที่เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ประกอบกับความผันผวนในตลาดที่จะยังคงมีเพิ่มมากขึ้นในระยะยาว การลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้อายุ 6 เดือน และ 1 ปี จึงถือเป็นช่วงเวลาการลงทุนที่น่าสนใจที่สุดในระยะนี้” นางสาวยุพาวดีกล่าว
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยจึงเตรียมเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ อายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน บีดี (KFI3MBD) กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน วี (KFF6MV) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอไอ (KFF1YAI) พร้อมด้วยกองทุนตราสารหนี้ไทย คือ กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน เออาร์ (KPPTF3MAR) โอกาสรับผลตอบแทนประมาณ 2.70-3.25% ต่อปี
สำหรับกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน บีดี (KFI3MBD) ให้โอกาสรับผลตอบแทน 2.90% ต่อปี จะลงทุนในตราสารหนี้ Banco Bradesco ประเทศบราซิล เงินฝาก Commercial Bank of Qatar ประเทศกาตาร์ เงินฝาก Emirates NBD Bank สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และพันธบัตรรัฐบาลไทย
ขณะที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน วี (KFF6MV) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอไอ (KFF1YAI) ซึ่งจะลงทุนในตราสารหนี้ Banco Itau BBA S.A. และตราสารหนี้ Banco Bradesco ประเทศบราซิล เงินฝาก Commercial Bank of Qatar ประเทศกาตาร์ เงินฝาก Union National Bank สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และพันธบัตรรัฐบาลไทยให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ 3.10% ต่อปี และ 3.25% ต่อปีตามลำดับ ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศของทั้ง 3 กองทุนยังคงน่าสนใจเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน อีกทั้งมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้วเต็มจำนวน
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและมุ่งเน้นการลงทุนในประเทศ สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน เออาร์ (KPPTF3MAR) ซึ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยได้ โดยกองทุนดังกล่าวให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ 2.70% ต่อปี