xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News by บลจ.บัวหลวง วันที่ 21 มิถุนายน 2555

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง

• คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีเดือน เม.ย.ลดลง 1.9% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากที่พุ่งขึ้น 3.5% ในเดือน มี.ค. และลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขายในภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน บ่งชี้ถึงภาวะธุรกิจภาคอุตสาหกรรมในอิตาลีที่อ่อนแอ อันเป็นผลจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปที่ทำให้ความต้องการสินค้าในภูมิภาคลดลง

• นายกรัฐมนตรี มาริโอ มอนติ ของอิตาลี เปิดเผยว่า อิตาลีอาจพิจารณาใช้เงินจากกองทุนช่วยเหลือจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) มาซื้อตราสารหนี้ของประเทศ โดยจะมีการหารือกันในการประชุมระหว่างผู้นำอิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน ในวันที่ 22 มิ.ย.ที่กรุงโรม ก่อนการประชุมสุดยอดอียูที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ โดยมอนติเน้นว่าการใช้เงินกองทุนช่วยเหลือในลักษณะนี้ กับการขอความช่วยเหลือทางการเงินเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน

• ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนีเดือน พ.ค.ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ลดลง 0.9% ซึ่งหากไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนี PPI ของเดือน พ.ค.จะอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือน เม.ย. สะท้อนถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันเป็นหลัก

• อันโตนิส ซามาราส หัวหน้าพรรคนิวเดโมเครซี ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกรีซอย่างเป็นทางการแล้ว โดยรัฐบาลผสมชุดใหม่ของกรีซประกอบด้วยพรรคนิวเดโมเครซี พรรค Pasok และพรรคเดโมเครติกเลฟท์ ซึ่งเป็นกลุ่มพรรคการเมืองกรีซที่สนับสนุนข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินและมาตรการรัดเข็มขัด

• บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดการณ์ว่า ยูโรโซนไม่น่าจะแตกสลายแต่จะยังคงเผชิญกับความสับสนวุ่นวายต่อไป แต่ถ้ายูโรโซนเกิดแตกสลายขึ้นจริงๆ จะเกิดความสับสนวุ่นวายทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ทั้งนี้ ถ้าหากกรีซถอนตัวออกจากยูโรโซนจริง จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของยูโรโซนหดตัวลงราว 1.5-2.0% และอาจลดลงได้ถึง 4-6% หากกรีซออกจากยูโรโซนแบบไร้ระเบียบ เทียบได้กับช่วงที่เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย โดยการที่พรรคการเมืองกรีซซึ่งสนับสนุนข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินและมาตรการรัดเข็มขัดชนะการเลือกตั้ง เป็นแค่การผ่อนคลายความกังวลจากวิกฤตยูโรโซนในช่วงสั้นๆ เท่านั้น

• ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ต่ออายุการใช้ Operation Twist ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ ด้วยวงเงินที่จะใช้ซื้อพันธบัตรระยะยาวจำนวน 2.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับมือกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งผิดจากการคาดการณ์ของหลายฝ่ายที่เชื่อว่า FED จะใช้นโยบายอัดฉีดเงินอีกครั้ง (QE3)

อย่างไรก็ตาม FED กล่าวว่ามีการเตรียมพร้อมที่จะใช้มาตรการช่วยเหลือมากกว่านี้ถ้าหากสถานการณ์ย่ำแย่ลงอีก ซึ่งอาจจะหมายถึง QE3 ก็ได้

• สถาบันวิจัยพิว รีเสิร์ช เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเป็นกลุ่มชนชาติที่มีรายได้สูงที่สุด ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด และมีจำนวนเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในสหรัฐฯ โดยในปีก่อนมีจำนวนถึง 18.2 ล้านคน คิดเป็น 5.8% ของจำนวนประชากรสหรัฐฯ ทั้งหมด และมีรายได้เฉลี่ยต่อปีครัวเรือนละ 66,000 ดอลลาร์ มากกว่าระดับของคนทั่วไปในสหรัฐฯ ที่มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 49,800 ดอลลาร์

ดังนั้น ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียจะเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อเติบโตรวดเร็วในอนาคต

• ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียให้ความเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของอินเดียอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่าจะยอมรับได้ และอาจจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5% แล้ว แต่อัตราเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคยังอยู่เหนือระดับ 10% ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ธนาคารกลางอินเดียยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมแม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา

• กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณที่ควรจะปรับเป้าหมายการส่งออกของประเทศ แม้จะมีภาวะวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป และยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของ GDP ไทยปีนี้ไว้ที่ 5.5-6.5% โดยเชื่อว่าแม้จะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายสุด เศรษฐกิจไทยก็ยังน่าจะขยายตัวเป็นบวกได้

ส่วน ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. ยังยืนยันคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ไทยในปีนี้ที่ 6% และเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% เหมาะสมแล้ว แต่ถ้าหากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปมีความรุนแรงมากขึ้น ธปท.ก็พร้อมจะผ่อนคลายนโยบายดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับสถานการณ์

• รมช.คมนาคมเปิดเผยแนวคิดที่จะจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอากาศยานและศูนย์ซ่อมอากาศยานที่ท่าอากาศยาน จ.นครราชสีมา โดยเตรียมวางแผนการจัดตั้งให้เป็นรูปธรรมภายใน 2 ปี และตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการซ่อมอากาศยานในอีก 20 ปี

ทั้งนี้ ตลาดซ่อมบำรุงเครื่องบินและชิ้นส่วนของโลกมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 10% และในปี 2551 มีมูลค่าสูงถึง 45,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปัจจุบัน ประเทศในเอเชียที่มีส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมนี้มากที่สุดได้แก่ จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย ตามลำดับ

• ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปด้วยมาตรการต่างๆ ดังนี้

1) พิจารณาผ่อนปรนดอกเบี้ยผิดนัด กรณีผู้ส่งออกชำระหนี้ไม่ทันตามกำหนดอันเนื่องมาจากผู้ซื้อชำระเงินค่าสินค้าล่าช้า

2) ผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยรับซื้อลดเอกสารการส่งออก เนื่องจากผู้ซื้อชำระหนี้ล่าช้า

3) บริการประกันการส่งออก เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า

4) บริการประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อในต่างประเทศ เพื่อจะได้ทราบสถานะความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อในต่างประเทศ

Equity Market

• SET Index ปิดที่ 1,173.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด หรือ +0.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20,306 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 21 ล้านบาท โดยดัชนี SET มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอดทั้งวัน โดยนักลงทุนรอฟังผลถ้อยแถลงของเฟด (ซึ่งได้ประกาศต่อมาตรการ Operation Twist) สำหรับหุ้นที่ส่งผลบวกต่อดัชนี ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มสื่อสาร ในขณะที่มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา

Fixed Income Market

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีการปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ โดยเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.04% ถึง +0.01% ทั้งนี้ รุ่นอายุ 10 ถึง 20 ปี มีอัตราผลตอบแทนลดลงมากกว่ารุ่นอายุอื่นๆ สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธ.ก.ส. อายุ 1 ปี มูลค่า 20,000 ล้าน พันธบัตร กฟภ.อายุ 10 ปี มูลค่า 1,400 ล้านบาท และพันธบัตร ร.ฟ.ท. อายุ 7 ปี มูลค่า 2,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น