ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยร่วงต่อ 16 จุด ต่างชาติไม่มั่นใจนโยบายกรีซ-ฝรั่งเศส แห่เทขายหุ้นและทองคำ เพื่อปรับพรอ์ต คาดอาจเห็นการรีบาวด์ หรือแค่ทรงตัวในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ชี้หากการรัดเข็มขัดของประเทศที่มีปัญหาไม่เดินหน้าต่อ ก็มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้(10พ.ค.) ยังปรับตัวในแดนบวกต่อเนื่องจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 1,190.65 จุด ลดลง 16.60 จุด หรือ 1.38% มูลค่าการซื้อขาย 45,789.40 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,202.20 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,185.89 จุด ภาพรวมเป็นการปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค อันเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิถึง 4,912.61 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการปรับพอร์ตลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาในยูโรโซน
นายคมสันต์ ปรมาติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรง ผิดไปจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ทรงตัวหรือปรับตัวลงเล็กน้อย คาดว่านักลงทุนต่างชาติมีการขายหุ้นออกมามากเพื่อลดความเสี่ยงอันเกิดจากปัจจัยในยุโรป โดยเฉพาะเรื่องของกรีซที่เสี่ยงอาจจะออกจากกลุ่มยูโรโซน ขณะเดียวกันมองว่าประเด็นในยุโรปที่เกิดขึ้นหากส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯมาก และอาจทำให้สหรัฐฯต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก
โดยแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(11 พ.ค.) มองว่า ดัชนีมีโอกาสที่จะรีบาวน์หรือทรงตัวได้ เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมาตลาดปรับตัวลงไปมาก แต่ไม่ควรหลุดแนวรับ 1,180 จุด เพราะถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,200 จุด
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่อง ปัจจัยมาจากความกังวลการเมืองกรีซและฝรั่งเศส ที่ไม่มีมาตรการชัดเจนในการรัดเข็มขัด ตลอดจนการตั้งรัฐบาล ทำให้เม็ดเงินในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงถูกเทขายทำกำไร ทั้งนี้ทิศทางของตลาดมีแนวโน้มพักตัวต่อ โดยมีกรอบการพักตัวที่กรอบใหญ่ 1,165 - 1,150 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้(10พ.ค.) ยังปรับตัวในแดนบวกต่อเนื่องจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 1,190.65 จุด ลดลง 16.60 จุด หรือ 1.38% มูลค่าการซื้อขาย 45,789.40 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,202.20 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,185.89 จุด ภาพรวมเป็นการปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค อันเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิถึง 4,912.61 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการปรับพอร์ตลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาในยูโรโซน
นายคมสันต์ ปรมาติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรง ผิดไปจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ทรงตัวหรือปรับตัวลงเล็กน้อย คาดว่านักลงทุนต่างชาติมีการขายหุ้นออกมามากเพื่อลดความเสี่ยงอันเกิดจากปัจจัยในยุโรป โดยเฉพาะเรื่องของกรีซที่เสี่ยงอาจจะออกจากกลุ่มยูโรโซน ขณะเดียวกันมองว่าประเด็นในยุโรปที่เกิดขึ้นหากส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯมาก และอาจทำให้สหรัฐฯต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก
โดยแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(11 พ.ค.) มองว่า ดัชนีมีโอกาสที่จะรีบาวน์หรือทรงตัวได้ เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมาตลาดปรับตัวลงไปมาก แต่ไม่ควรหลุดแนวรับ 1,180 จุด เพราะถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,200 จุด
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่อง ปัจจัยมาจากความกังวลการเมืองกรีซและฝรั่งเศส ที่ไม่มีมาตรการชัดเจนในการรัดเข็มขัด ตลอดจนการตั้งรัฐบาล ทำให้เม็ดเงินในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงถูกเทขายทำกำไร ทั้งนี้ทิศทางของตลาดมีแนวโน้มพักตัวต่อ โดยมีกรอบการพักตัวที่กรอบใหญ่ 1,165 - 1,150 จุด