บลจ.ไอเอ็นจีเดินหน้าออกกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (6) หลังจากประเมินการแก้ปัญหาวิกฤตยุโรปมีแนวโน้มดีขึ้น กรีซยังอยู่ในยูโรโซนต่อ ขณะที่สหรัฐฯอาจออกมาตรการ QE3 กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ พร้อมมองหุ้นไทยปรับฐานจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจนเป็นจังหวะเข้าซื้ออีกครั้ง คาดเป้าหมายสิ้นปีของ SET Index เพิ่มขึ้นอีก 12%
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายกองทุนใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (6) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง และเน้นการใช้เทคนิคเรื่องการเข้า-ออกตลาดในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย โดยเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาท ไปอยู่ที่ 11.00 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุนก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด พร้อมเลิกกองทุน
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นอยู่ที่การเป็นกองทุนผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุน โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ตามความเหมาะสมกับสภาพตลาด ทำให้สามารถบริหารการลงทุนได้เป็นอย่างดีในทุกช่วงภาวะตลาดการลงทุน
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลตอบแทนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (6) เข้าสู่เป้าหมายได้นั้น มาจากการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา โดยมาจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่การเลือกตั้งในกรีซมีความชัดเจนมากขึ้น โดยพรรคที่มีแนวโน้มได้คะแนนเสียงสูงสุดเป็นพรรคที่สนับสนุนนโยบายรัดเข็มขัด ทำให้เชื่อว่ากรีซจะยังคงสถานะในยูโรโซนต่อไป และยังคงจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของกรีซผ่อนคลายลง ประกอบกับมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มสหภาพยุโรป (จี20) จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณที่จะออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ก็จะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยในระยะต่อไป
“ตลาดหุ้นไทยยังมี Valuation ที่ถูกและยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ค่า Forward P/E ของตลาดหุ้นไทยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ 11.1 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหุ้นกลุ่มประเทศในภูมิภาค ประกอบกับสำนักวิจัยหลายแห่งได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย SET Index ในปี 2012 ว่า SET Index อาจจะปรับตัวขึ้นสู่ช่วงระดับ 1,300-1,350 จุด ที่ P/E 13 - 13.5 เท่า เมื่อเทียบกับ SET Index ณ ปัจจุบันที่ระดับ 1163.41 จุด (ณ 18 มิถุนายน 2012) จะมี Upside potential อีกประมาณ 12-16% ทำให้เรามองว่าเป็นโอกาสของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งหนึ่ง” นายจุมพลกล่าว
นอกจากนี้ ผลสำรวจ SAA Consensus ของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ล่าสุด (15 มิถุนายน 2012) ยังได้ปรับเป้าหมาย SET Index สิ้นปีเพิ่มอีก 12% จากระดับ 1,130 จุดเป็น 1,268 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวสูงในปี 2012 จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลและการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งการที่รัฐบาลลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 23% และ 20% ในปี 55 และ 56 ตามลำดับ รวมถึงการที่ผลกระทบจากยูโรโซนจะบรรเทาลง
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้เฉลี่ยที่ 5.3% และปี 2556 เฉลี่ยที่ 4.8% ขณะที่คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 2012 จะเติบโตเฉลี่ย 21.5% เพิ่มจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ 11.6% และในปี 2013 ปรับเพิ่มขึ้นที่เฉลี่ย 13.9% อีกทั้งนักวิเคราะห์ยังคาดว่านักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศ รวมทั้งพอร์ตโบรกเกอร์จะซื้อสุทธิหุ้นไทยในช่วง 7 เดือนหลังของปีนี้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคม รวมกว่า 4.83 หมื่นล้านบาท สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (6) จะเสนอขายระหว่างวันที่ 20-27 มิถุนายน 2555