บลจ.กรุไทย เผยเตรียมจัดตั้งกองทุนอินฟาร์สตรัคเจอร์ฟันด์ ลงทุนในโรงงานผลิตไฟฟ้าในนิคมอุตสหรกรรม ขนาดโครงการ 6,000-7,000 ล้านบาท มั่นใจระดมทุนได้ในปีนี้ ล่าสุดส่งกองทุนอีทีเอฟ “เคแทม ฮ่องกง อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ฟันด์”อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็ง เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 8 มิถุนายน 2555
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความคืบหน้าในการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟาร์สตรัคเจอร์ ฟันด์)นั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนจัดตั้งอยู่ ซึ่งจะเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตไฟฟ้าในนิคมอุตสหกรรมขนาดประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะเปิดให้มีการระดมทุนได้ในปีนี้่
ขณะเดียวกันในช่วงเวลาอันใกล้นี้จะมีการใช้กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts : REITs)แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้บลจ.อาจจะต้องระดมทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ภายใต้การบริหารจัดการตามที่ก.ล.ต.กำหนด เช่นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า เทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท ที่จะมีการเพิ่มทุนเพื่อจะการลงทุนนำเทสโก้โลตัสสาขา ศาลายา และนวนครเข้ากองทุนซึ่งเชื่อในปีนี้น่าจะเห็นมีการเพิ่มทุนได้อีกด้วย
นายสมชัย กล่าวต่อว่า เรามองว่าช่วงนี้ก็เป็นเวลาที่ดีในการออกกองทุนอีทีเอฟกองใหม่ที่อ้างอิงในดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง คือกองทุนเคแทม ฮ่องกง อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ฟันด์ (KTAM HONG KONG TRACKER) หรือ HK โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Tracker Fund Of Hong Kong ในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งจัดตั้งโดย State Street Global Advisors Asia Limited ภายใต้กฎหมายของประเทศฮ่องกง และจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
ทางด้านนางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ และการตลาด 2 บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า จุดเด่นของตลาดหุ้นฮ่องกงนั้นนอกเหนือจากเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนที่สำคัญที่สุดของจีนแล้ว ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งที่สำคัญระดับโลกอีกด้วย ทั้งนี้ฮ่องกงมีสถานะเป็นเขตบริหารพิเศษแยกจากจีนภายใต้นโยบาย หนึ่งประเทศสองระบบโดยฮ่องกงมีสิทธิในการปกครองตนเองอย่างอิสระในด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การพาณิชย์ ฯลฯ ตามระบบเสรีเป็นเวลาอีก 50 ปีนับตั้งแต่วันที่รัฐบาลจีนได้รับฮ่องกงกลับคืนจากรัฐบาลอังกฤษ ขณะเดียวกันฮ่องกงมีจุดเด่นในฐานะเป็นเมืองท่าเสรีมีระบบภาษีที่ต่ำและไม่ซับซ้อนมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีและทันสมัย
"เรามองว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะในการเปิดขายกองทุนHK ซึ่งเมื่อเทียบราคาหุ้นกับผลประกอบการของดัชนีฮั่งเส็ง ณ สิ้นปี 2554 ดัชนีฮั่งเส็งซื้อขายอยู่ที่ 9.2 เท่าของ forward earning โดยในอดีตฮั่งเส็งเคยมี rolling price-to-eaening ต่ำกว่า 9 เท่าในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2551 ซึ่งการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงลดลง และอาจเป็นโอกาสในการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2556 ที่มีการคาดการณ์ว่าผลประกอบการจะเคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบแคบๆเมื่อเทียบกับปีปรับลดถึง 36% ในปี 2551"
สำหรับกองทุนเคแทม ฮ่องกง อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ฟันด์เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 8 มิถุนายน 2555 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 4,000 บาท
