บลจ.กสิกรฯ คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยสดใส แม้ปัญหาหนี้ยุโรปไม่นิ่ง ระบุหุ้นไทยอาจผันผวนระยะสั้น แต่ปลายปีอยู่ในกรอบ 1,250-1,00 จุดแน่ พร้อมชูกองทุน “K-PLAN” รุกมันนีเอ็กซ์โป เชื่อตอบโจทย์ทุกเสี่ยงที่นักลงทุนต้องการได้
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในขณะนี้บริษัทมองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาปรับประมาณการเศรษฐกิจจาก 4.9% ขึ้นเป็น 6% ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองบวกของเราต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
ขณะที่ปัญหาหนี้ยุโรปที่เริ่มสร้างผลกระทบอีกครั้ อาจส่งผลให้เม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ประกอบกับความกังวลต่อเงินเฟ้อภายในประเทศจากการจ้างงานที่แพงขึ้น จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยยังคงคาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปลายปีอยู่ที่ 1,250-1,300 จุด
ทั้งนี้ ล่าสุดเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในการวางแผนการเงิน บริษัทได้ทำการส่งเสริมการขายร่วมกับเครือธนาคารกสิกรไทย ในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 12 (Money Expo 2012) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2555 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมเพื่อตอบโจทย์กองทุนสำหรับคนคิดบวก
โดยกองทุนที่ บลจ.กสิกรไทยมุ่งเสนอเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุน คือ กลุ่มกองทุนเปิดเค แพลน (K-PLAN) ซึ่งเหมาะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่งอกเงยยิ่งขึ้นแต่ไม่มีโอกาสติดตามสภาวะตลาดเงินตลาดทุนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกลุ่มกองทุน K-PLAN เป็นกองทุนผสมที่มีนโยบายการลงทุนตอบรับเป้าหมายในการลงทุนที่แตกต่างกัน กล่าวคือ กองทุน K-PLAN 1 ซึ่งเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน และอาจลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่เกิน 20% โดยไม่มีการลงทุนในหุ้นเลย จึงเหมาะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากหุ้น แต่ต้องการความมั่นใจในการลงทุนและต้องการทางเลือกที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการฝากเงิน
ส่วนผู้ลงทุนที่เพิ่งเริ่มลงทุนในกองทุนหุ้นแต่ยังรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก สามารถเลือกลงทุนกับกองทุน K-PLAN 2 ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30% หรือหากรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้นก็สามารถเลือกลงทุนกับกองทุน K-PLAN3 ที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นได้ถึง 55% ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ และอาจลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน 30% ซึ่งในสภาวะที่ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนเช่นนี้ กองทุน K-PLAN ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนในกองทุนหุ้นเพียงอย่างเดียวได้ดี และยังเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนได้กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภทอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นทางออกที่ดีของการลงทุนในปัจจุบัน
นางสาวยุพาวดีกล่าวอีกว่า ผู้สนใจสามารถเริ่มลงทุนในกองทุนเปิดเค แพลน 1-2-3 ได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท พร้อมทั้งสามารถลงทุนอย่างสม่ำเสมอโดยหักบัญชีเพื่อลงทุนรายเดือนกับบริการ K-Saving Plan นอกจากนี้ ผู้ที่ลงทุนกับกองทุน K-PLAN 1-2-3 ภายในงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 12 (Money Expo 2012) จะได้รับโปรโมชันพิเศษ 2 ต่อ โดยต่อที่ 1 รับที่ใส่สมุดบัญชีลิขสิทธิ์ Paul Frank เมื่อลงทุนตั้งแต่ 50,000-149,999 บาท และรับร่มลิขสิทธิ์ Paul Frank เมื่อลงทุน 150,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ ยอดเงินลงทุนทุกๆ 100,000 บาทยังจะได้รับ cash Back 150 บาท (สูงสุด 2,000 บาทต่อท่าน) เป็นโปรโมชันสุดคุ้มต่อที่ 2 อีกด้วย
นอกเหนือจากกลุ่มกองทุนเค แพลนซึ่งเป็นกองทุนเด่นภายในงานนี้แล้ว ผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงและรับความผันผวนจากตลาดหุ้นได้ยังสามารถเลือกลงทุนกับกองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) กองทุนหุ้นกองทุนแรกของ บลจ.กสิกรไทย หรือเลือกกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังต่างประเทศกับกองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) ซึ่งมุ่งลงทุนในกองทุนหลักในต่างประเทศ คือ กองทุน BGF-Global Allocation Fund ภายใต้การบริหารของ Black Rock บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ครอบครองหลักทรัพย์จากทุกมุมโลก ด้วยกลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบผสมผสาน พร้อมนโยบายจ่ายปันผลสูงสุด 4 ครั้งต่อปี โดยเงินลงทุนทุกๆ 50,000 บาทจะได้รับ Cash Back 100 บาท (สูงสุด 2,000 บาทต่อท่าน)
ด้านกองทุนใหม่ที่จะเสนอขายครั้งแรกภายในงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 12 นี้ นางสาวยุพาวดีกล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย มีกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเสนอขาย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการล็อกโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าเงินฝาก ได้แก่ กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน เอแอล (KPPTF3MAL) กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน เอดับเบิ้ลยู (KFI3MAW) กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน โอ (KFF6MO) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เออี (KFF1YAE) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.75% ต่อปี 3.00% ต่อปี 3.25% ต่อปี และ 3.90% ต่อปี ตามลำดับ โดยผู้ลงทุนในกองทุนดังกล่าวทุกๆ 1,000,000 บาท จะได้รับ Cash Back 200 บาท (สูงสุด 4,000 บาทต่อท่าน) อีกด้วย