xs
xsm
sm
md
lg

กูรูมองกรีซอาจถอนตัวจาก EU หลังฝรั่งเศส-เยอรมนีเห็นไม่ตรงกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์กองทุนรวม ประเมิน มีความเป็นได้ที่กรีซจะถอนตัวจากลุ่มยูโรโซน หลังการเมืองยังไม่มีความมั่นคง ขณะที่ผู้นำคนใหม่ของฝรั่งเศสมีความเห็นไม่ลงรอยกับผู้นำเยอรมัน อาจส่งผลให้การแก้ปัญหาหนี้เสียของยุโรปล่าช้าออกไป พร้อมมองราคาสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้นแกว่งตัวผันผวน

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund Super Mart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เราเริ่มเห็นปัญหาหนี้ยุโรปกลับเข้ามาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 6% ทำให้นักลงทุนหันมามองความเสี่ยงจากปัญหาหนี้ยุโรปกันอีกครั้ง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงอยู่ ขณะที่ผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศสและกรีซ สร้างความไม่มั่นใจเพิ่มมากขึ้น โดยผู้นำคนใหม่ของฝรั่งเศสมีความเห็นไม่ลงรอยกับผู้นำเยอรมัน และอาจนำมาซึ่งความล่าช้าในการแก้ปัญหาหนี้ ส่วนกรีซเองการเมืองยังไม่มั่นคง และมีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นถึงโอกาสที่กรีซอาจจะถอนตัวออกจากกลุ่มยูโรโซนในท้ายที่สุด

นอกจากยุโรปแล้ว นักลงทุนเริ่มกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐด้วยเช่นกัน แม้ว่าอัตราการว่างงานล่าสุดยังคงปรับตัวลดลงเหลือ 8.1% แต่ตัวเลขการจ้างงานชะลอการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและน้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้มาก ปัจจัยลบเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นและสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ทำให้ระยะสั้นความผันผวนเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงบางอย่างเริ่มปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง มองเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยสะสมกองทุนทองคำบางส่วน และอาจได้เห็นโอกาสเข้าสะสมกองทุนที่ดีและเน้นลงทุนในภูมิภาคที่มีความแข็งแกร่ง ไม่มีปัญหาหนี้ เพื่อลงทุนระยะยาวในไม่ช้า

นายสานุพงศ์ กล่าวต่อว่า การประชุม กนง.ล่าสุด ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้อัตราผลตอบแทนกองทุนตลาดเงิน และกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ด้วยความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในราคาสินทรัพย์เสี่ยง เดือนที่แล้วเราแนะนำให้ลดพอร์ตการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงลงและพักเงินไว้ในกองทุนตลาดเงิน เดือนนี้เรายังคงคำแนะนำเดิมไว้ ขณะที่สถานการณ์หนี้ยุโรปเริ่มส่งสัญญาณถึงปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ กองทุนตลาดเงินที่แนะนำยังคงเป็น PCASH ของ บลจ. ฟิลลิป ตามเดิม แต่ด้วยขนาดกองทุน PCASH มีขนาดเล็ก เราจึงเพิ่ม SCBTMF ของ บลจ. ไทยพาณิชย์ เข้ามาเป็นทางเลือก

อย่างไรก็ตามปัจจัยลบจากปัญหาหนี้ยุโรปเริ่มสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ฐานะทางการคลัง และเศรษฐกิจที่ถดถอยของประเทศที่มีปัญหาต่อด้วยความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจทำให้การแก้ปัญหาหนี้อาจไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ ทำให้ความผันผวนของราคาสินทรัพย์เสี่ยงมีเพิ่มมากขึ้น การลงทุนในเดือนนี้ต้องใช้ความระมัดระวังทั้งการเก็งกำไร และการลงทุนระยะยาว แต่นั่นจะเป็นโอกาสที่สำหรับการเข้าสะสมกองทุนหุ้นที่เรายังคงแนะนำกองทุนที่เน้นตลาดเกิดใหม่เป็นหลัก รวมถึง LTF และ RMF ด้วย

ขณะเดียวกันปัญหาหนี้ยุโรป และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังเปราะบาง รวมถึงยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางสหรัฐและยุโรป และการที่ดอลล่าร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ราคาน้ำมันและทองคำ ปรับตัวลดลง โดยราคาน้ำมันล่าสุด (10 พ.ค. 55) ที่ราว 96 US$/bbl. ลดลงหลุด 100 US$/bbl.ขณะที่ราคาทองคำเองก็ปรับตัวลดลงหลุด 1,600 US$/oz. อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจอยู่ แนะนำทยอยสะสมกองทุนทองคำ TGoldBullion-H ที่แนวรับ 1,580 และ 1,510 US$/oz.ตามลำดับ ขณะที่กองทุนน้ำมัน การเก็งกำไรต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากกองทุนหลักจะทำการ Roll Over สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันใหม่ในเร็วๆ นี้ อาจทำให้ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น