xs
xsm
sm
md
lg

แก้พ.ร.บ.PVDสมาชิกได้ประโยชน์ TMBAMเมินแข่งขันกดค่าธรรมเนียมให้ถูกลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชนันท์ดา ปันยารชุน
บลจ.ทหารไทย มั่นใจการแก้ไขพ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะเป็นประโยชน์กับสมาชิกโดยตรง เมินแข่งขันแย่งลูกค้าด้วยค่าธรรมเนียมต่ำ พร้อมชูบริการให้สมาชิกเลือกลงทุนและเกาะติดการลงทุนด้วยตัวเองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

นางสาวชนันท์ดา ปันยารชุน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กำลังอยู่ในช่วงการเสนอขอแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ได้แก่ 1.ลูกจ้างสามารถจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนได้มากกว่าน้อยจ้างจ่ายเงินสมทบ ซึ่งข้อนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกจ้างสามารถใส่เงินสมทบได้มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มเงินในส่วนนี้ก็ส่งผลดีกับการวางเเผนเกษียณในอนาคต

ส่วนที่ 2.การให้นายจ้างและหรือลูกจ้างหยุดส่งเงินและเลื่อนส่งเงินเข้ากองทุนเป็นการชั่วคราว ในกรณีวิกฤตเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์ร้ายแรงที่มีผลกระทบเป็นวงกว้าง และลูกจ้างหรือนายจ้างที่ไม่พร้อมที่จะส่งเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุน สามารถหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินดังกล่าวได้คราวละไม่เกินหนึ่งปี โดยต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งอาจขยายระยะเวลาหรือกำหนดเงื่อนไขการปฏิบัติได้ตามความจำเป็น โดยที่้ผ่านมาในส่วนของบลจ.ทหารไทยก็มีนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอยุธยาขอหยุดส่งเงินเข้ากองทุนเป็นการชั่วคราวเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันสมาชิกกับนายจ้างที่ได้รับผลกระทบก็กลับเข้ามาส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเหมือนเดิมแล้ว

3.การแบ่งแยกทรัพย์สินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการกระจายได้ตามสัดส่วนเงินลงทุน แต่หลักเกณฑ์ใหม่คือการกระจายรายได้ในสัดส่วนที่เท่ากันและ4.การโอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปยังกองทุนอื่นที่มีวัถตุประสงค์เป็นการออมเพื่อการชราภาพ โดยลูกจ้างที่สิ้นสมาชิกภาพจากกองทุนเพราะออกจากงาน สามารถโอนเงินที่มีสิทธิได้รับจากกองทุนหรือเงินที่เหลือในกองทุนจากการขอรับเงินเป็นงวดไปยังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) หรือกองทุนอื่นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีออกจากงานหรือชราภาพ เพื่อให้ลูกจ้างสามารถออมเงินในกองทุนแบบผูกพันระยะยาวได้ต่อเนื่อง ซึ่งข้อนี้ก็เป็นการส่งเสริมให้สมาชิกมีเงินออมต่อไปในอนาคตอีกด้วย

นางสาวชนันท์ดา กล่าวต่อว่า ในส่วนของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ของบลจ.ทหารไทยนั้น ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 3,257,046,658.58 บาท ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 11 ของอุตสหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยในปีนี้เราตั้งเป้าเติบโตประมาณ 20% ซึ่งจุดเด่นของบลจ.ทหารไทยนั้นคือ มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายให้สมาชิกได้เลือกลงทุน ซึ่งคณะกรรมการกองทุนสามารถกำหนดกรอบนโยบายมาตรฐานได้ และสมาชิกสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมได้ด้วยตนเอง

นอกจากนี้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเราสามารถทำรายการเงินเข้าออกได้ทุหวัน และปรับสัดส่วนการลงทุนได้ทุกวัน หรือตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด โดยการปรับสัดส่วนการลงทุนนั้น สมาชิกสามารถเลือกปรับเฉพาะเงินเข้าใหม่ หรือ เงินเก่า หรือจะปรับเงินเข้าใหม่และเงินเก่าไปพร้อมกัน ซึ่งสมาชิกสามารถทำรายการดังกล่าวผ่านอินเตอร์เน็ต โดยไม่มีค่าธรรมเนียนเรียกเก็บซ้ำซ้อนระหว่างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับกองทุนรวม ขณะเดียวกันสมาชิกก็สามารถติดตามผลการดำเนินงานแต่ละนโยบายของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตนเองรวมถึงสามารถทำรายการปรับสัดส่วนการลงทุนผ่านเว็บไซต์ของบลจ.ทหารไทย ได้ทุกวันด้วยเช่นกัน

"บลจ.ทหารไทยนั้นจะเน้นการให้ความรู้นโยบายการลงทุนโดยเฉพาะการใช้ Employee's Choice เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกเลือกลงทุนตามเป้าหมายรวมถึงการรับยอมรับความเสี่ยงของตัวเอง ทั้งนี้เรามองว่าทาร์เก็ตของลูกค้าเรานั้นจะเป็นบริษัทขนาดกลางและพอมีความรู้ความเข้าในการลงทุน เช่นบริษัทหลักทรัพย์ หรือบล. และบลจ. เป็นหลัก ส่วนการเเข่งขันที่ดุเดือดในอุตสหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นเราคงไม่ได้ไปแข่งขันโดยเฉพาะเรื่องค่าธรรมเนียม แต่เราจะโฟกัสไปที่คุณภาพและคุณค่าที่สมาชิกจะได้รับในการใช้บริการจากเรา"นางสาวชนันท์ดา กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในขณะนี้ ขั้นตอนกำลังอยู่ในระหว่างสำนักงาน ก.ล.ต. นำส่งร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อกระทรวงการคลัง
s
กำลังโหลดความคิดเห็น