xs
xsm
sm
md
lg

INGส่งกองหุ้นผสมตราสารหนี้ ชูเทคนิคอยู่ที่การปรับพอร์ตลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุมพล สายมาลา
บลจ.ไอเอ็นจี ส่งกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย มิกซ์ 15/85 ปันผล เน้นลงทุนในหุ้นสัดส่วน 15% และตราสารหนี้ 85% ชูเทคนิคสำคัญอยู่ที่การปรับพอร์ตการลงทุน หรือPortfolio Balancing เน้นขายทำกำไรจากส่วนหุ้น เพื่อสะสมผลตอบแทนในส่วนตราสารหนี้ เปิดขายไอพีโอตั้งแต่วันนี้ถึง 5 เมษายน 55

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บลจ.ไอเอ็นจี จะเสนอขายกองทุนใหม่ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย มิกซ์ 15/85 ปันผล ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ/หรือเงินฝาก โดยการลงทุนในตราสารทุน จะมีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 0-15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ อย่างไรก็ตามสัดส่วนดังกล่าวอาจปรับเพิ่มได้อีก แต่จะเพิ่มไม่เกิน 5% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ดังนั้น การลงทุนของกองทุนในตราสารทุน โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชี จะไม่เกิน 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ โดยกองทุนนี้เปิดขายไอพีโอตั้งแต่วันนี้ถึง 5 เมษายน 55

ทั้งนี้กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย มิกซ์ 15/85 ปันผล (MIX-D1585) เป็นกองทุนที่มีการบริหารจัดการพอร์ตลงทุน โดยเน้นความมั่นคงและสะสมผลตอบแทน ซึ่งความสม่ำเสมอของผลตอบแทนจะมาจากดอกเบี้ยรับและโอกาสในการปรับเพิ่มขึ้นของราคาของตราสารหนี้ที่เข้าไปลงทุนในสัดส่วนประมาณ 85% ขณะที่โอกาสในการเติบโตของเงินลงทุน จะมาจากมูลค่าเพิ่มของหน่วยลงทุนซึ่งเกิดจากกำไร หรือเงินปันผลจากการลงทุนในหุ้น ซึ่งเป็นระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่ไม่มากนัก

" โดยกองทุนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากการลงทุนในตราสารหนี้ในสัดส่วน 85% และแสวงหาโอกาสในการเติบโตจากการลงทุนในหุ้นในสัดส่วนประมาณ 15% ซึ่งจุดเด่นของกองทุนจะอยู่ที่การปรับพอร์ตการลงทุนหรือ Portfolio Rebalancing โดยเมื่อตราสารทุนหรือหุ้นที่กองทุนเข้าไปลงทุนมีกำไรและสัดส่วนของหุ้นพิ่มขึ้นเกินกว่า 15% ผู้จัดการกองทุนก็จะขายทำกำไร แล้วนำส่วนของกำไรกลับไปลงทุนในตราสารหนี้เพื่อสะสมผลตอบแทน และเพื่อให้สัดส่วนการลงทุนของพอร์ตกลับมาสู่ระดับการลงทุนที่กำหนดไว้ที่ 15/85 ซึ่งจะทำให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น และด้วยวิธีการนี้นอกจากจะทำให้กองทุนมีการสะสมผลตอบแทนอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังจะสนับสนุนให้กองทุนมีการเติบโตอย่างมั่นคงอีกด้วย " นายจุมพลกล่าว

สำหรับการปรับพอร์ตลงทุน (Portfolio Rebalancing) มีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลกำไรและจำกัดผลขาดทุนด้วยการจัดสรรการลงทุนที่ดี ภายใต้พอร์ตการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นในการบริหารด้วยการลงทุนสไตล์ Active Management ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับทุกสภาวการณ์และเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากตลาดหุ้นอยู่ในภาวะการซื้อขายที่ผิดปกติหรือขาดเสถียรภาพ ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น โดยการไม่ถือครองหุ้นในพอร์ตเลย และจะหันกลับมาถือครองเงินสดหรือตราสารหนี้แทน

" ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งประเด็นหลักมาจากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การปรับตัวสูงขึ้นเหนือกว่าระดับ 1,200 จุด ก่อให้เกิดความกังวลว่า อาจจะมีการขายทำกำไร รวมถึงยังต้องจับตาทิศทางเงินลงทุนของต่างชาติอย่างใกล้ชิดว่าจะเปลี่ยนทิศทางหรือไม่ ซึ่งประเด็นหลักยังอยู่ที่การแก้ไขปัญหาของเศรษฐกิจยุโรป และการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย " นายจุมพลกล่าว

ดังนั้น ในช่วงที่สถานการณ์การลงทุนมีความผันผวนเช่นนี้ การลงทุนในกองทุนที่เป็นการผสมผสานระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ในระดับที่เหมาะสมอย่าง กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย มิกซ์ 15/85 ปันผล (MIX-D1585) นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากนักลงทุนจะไม่เสียโอกาสในการรับผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนก็ไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงที่สูงเกินไป เพราะนโยบายการลงทุนของกองทุนถูกกำหนดอย่างชัดเจนว่าจะลงทุนในหุ้นประมาณ 15% เท่านั้นพร้อมกลไกในการขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องสะสมผลกำไรในส่วนตราสารหนี้ และกองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
กำลังโหลดความคิดเห็น