ความเชื่อมั่น ศก.สหรัฐฯ เริ่มดีขึ้น หลังนักลงทุนย้ายเงินเข้าลงทุนหุ้นมากขึ้น ด้านยุโรป เตรียมระงับเงินช่วยเหลือแก่ฮังการี หลังไม่สามารถควบคุมการขาดดุลงบประมาณได้
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด รายงานภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศว่า เผยธนาคารจีนจะประสบกับภาวะขาดแคลนเงินทุนในปีนี้ นักลงทุนในประเทศได้มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารจีนจะระดมทุนในตลาดการเงินอีกครั้งในปีนี้ โดยจะขายพันธบัตรและหุ้นหลังจากที่มีการปล่อยสินเชื่ออย่างมากในปี 2552 และ 2553 ซึ่งทำให้สถานะเงินทุนของธนาคารหดตัวลง ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำกับกฎระเบียบธนาคารจีน (CBRC) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายสัดส่วนเงินกู้ต่อเงินฝาก (LDR) สำหรับอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) และไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์ (CCB) ขึ้นเป็น 63% และ 70% ตามลำดับ จาก 62% และ 68% ในปีที่แล้ว เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น หลังจากที่อัตราการปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน
ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมแต่มีการปรับขึ้นประมาณการณ์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก และได้ให้ความคิดเห็นเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ นาย เบอร์นันเก้ ยังกล่าวว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นเป็นเพียงปัจจัย "ชั่วคราว" ต่ออัตราเงินเฟ้อเท่านั้น นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังเปิดเผยอีกว่า ธนาคารสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ 15 จาก 19 แห่งผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ซึ่งรายงานดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ และทั่วโลกปรับตัวขึ้นในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงอย่างมาก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนอาจย้ายเงินทุนเข้าตลาดหุ้นโดยผลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นสู่ 2.33% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2554 โดยแรงเทขายดังกล่าวนั้นได้รับแรงหนุนจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ดีขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และการปรับเพิ่มคาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไอร์แลนด์เจรจาอียู, ไอเอ็มเอฟ หวังลดภาระหนี้ภาคธนาคาร โดยนายไมเคิล นูแนน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไอร์แลนด์ กล่าวว่า ไอร์แลนด์กำลังล้อบบี้บรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศเพื่อขออนุญาตให้ไอร์แลนด์สามารถถ่ายโอนภาระของสัญญาจำนองที่ก่อให้เกิดการขาดทุนออกจากธนาคารบางส่วน การเจรจาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้สพภาพยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ลดต้นทุนในการให้ความช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ของไอร์แลนด์ด้วยการรีไฟแนนซ์ตั๋วสัญญาใช้เงินมูลค่า 3 หมื่นล้านยูโร นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหภาพยุโรป เตรียมประกาศในการระงับเงินช่วยเหลือ 495 ล้านยูโรที่มีกำหนดให้แก่ฮังการี เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการขาดดุลงบประมาณได้ และอาจจะถือเป็นครั้งแรกที่อียูระงับการให้เงินช่วยเหลือประเทศสมาชิก เพื่อลงโทษต่อการดำเนินนโยบายการคลังที่หละหลวม ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้อีซีบีสามารถแสดงอำนาจใหม่ในการกำกับงบประมาณของประเทศสมาชิก
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด รายงานภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศว่า เผยธนาคารจีนจะประสบกับภาวะขาดแคลนเงินทุนในปีนี้ นักลงทุนในประเทศได้มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารจีนจะระดมทุนในตลาดการเงินอีกครั้งในปีนี้ โดยจะขายพันธบัตรและหุ้นหลังจากที่มีการปล่อยสินเชื่ออย่างมากในปี 2552 และ 2553 ซึ่งทำให้สถานะเงินทุนของธนาคารหดตัวลง ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำกับกฎระเบียบธนาคารจีน (CBRC) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายสัดส่วนเงินกู้ต่อเงินฝาก (LDR) สำหรับอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) และไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์ (CCB) ขึ้นเป็น 63% และ 70% ตามลำดับ จาก 62% และ 68% ในปีที่แล้ว เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น หลังจากที่อัตราการปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน
ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมแต่มีการปรับขึ้นประมาณการณ์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก และได้ให้ความคิดเห็นเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ นาย เบอร์นันเก้ ยังกล่าวว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นเป็นเพียงปัจจัย "ชั่วคราว" ต่ออัตราเงินเฟ้อเท่านั้น นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังเปิดเผยอีกว่า ธนาคารสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ 15 จาก 19 แห่งผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ซึ่งรายงานดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ และทั่วโลกปรับตัวขึ้นในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงอย่างมาก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนอาจย้ายเงินทุนเข้าตลาดหุ้นโดยผลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นสู่ 2.33% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2554 โดยแรงเทขายดังกล่าวนั้นได้รับแรงหนุนจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ดีขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และการปรับเพิ่มคาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไอร์แลนด์เจรจาอียู, ไอเอ็มเอฟ หวังลดภาระหนี้ภาคธนาคาร โดยนายไมเคิล นูแนน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไอร์แลนด์ กล่าวว่า ไอร์แลนด์กำลังล้อบบี้บรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศเพื่อขออนุญาตให้ไอร์แลนด์สามารถถ่ายโอนภาระของสัญญาจำนองที่ก่อให้เกิดการขาดทุนออกจากธนาคารบางส่วน การเจรจาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้สพภาพยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ลดต้นทุนในการให้ความช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ของไอร์แลนด์ด้วยการรีไฟแนนซ์ตั๋วสัญญาใช้เงินมูลค่า 3 หมื่นล้านยูโร นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหภาพยุโรป เตรียมประกาศในการระงับเงินช่วยเหลือ 495 ล้านยูโรที่มีกำหนดให้แก่ฮังการี เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการขาดดุลงบประมาณได้ และอาจจะถือเป็นครั้งแรกที่อียูระงับการให้เงินช่วยเหลือประเทศสมาชิก เพื่อลงโทษต่อการดำเนินนโยบายการคลังที่หละหลวม ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้อีซีบีสามารถแสดงอำนาจใหม่ในการกำกับงบประมาณของประเทศสมาชิก