บลจ. ยูโอบี มั่นใจตลาดหุ้นไทยยังรับปัจจัยบวก ส่งกองทุนหุ้น "ยูโอบี สมาร์ท เซ็ท 50" (UOBSET50) เน้นหุ้นคุณภาพลงทุนแบบเชิงรับ ขณะเดียวกันเตรียมจ่ายปันผล 3 กองทุนหุ้น ได้แก่ กองทุนเปิด กำไรเพิ่มพูน (KPLUS), กองทุนเปิด กำไรเพิ่มพูน 2 (KPLUS2) และ กองทุนเปิด ไทยดรากอน (TDF) ในเร็วๆ นี้
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปี นักลงทุนจะมีความกังวลการเติบโตของเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวจากผลกระทบวิกฤติน้ำท่วมบ้าง แต่โดยภาพรวมแล้ว นักลงทุนยังคงมีความมั่นใจต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ล่าสุด บลจ.ยูโอบี(ไทย) จำกัด ได้เปิดตัว กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เซ็ท 50(UOBSET50) ที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพที่อยู่ในดัชนี SET 50 และบริหารการลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Management Strategy) ซึ่งจะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET50 เปิดเสนอขายครั้งแรก 20 - 26 มีนาคม 2555 และเตรียมจ่ายปันผล 3 กองทุนหุ้นได้แก่ กองทุนเปิด กำไรเพิ่มพูน (KPLUS), กองทุนเปิด กำไรเพิ่มพูน 2 (KPLUS2) และ กองทุนเปิด ไทยดรากอน (TDF) ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นต่อหลังจากที่ได้พักตัวไปก่อนหน้า เป็นผลมาจากนักลงทุนมีความมั่นใจในภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศ จากที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน มียอดขอรับจัดสรรวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) จากธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อปล่อยกู้ต่อให้กับผู้ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 3.66 แสนล้านบาท ซึ่งเกินกว่าที่กำหนดไว้ที่ 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการเติบโตของหุ้นในกลุ่มธนาคาร
นอกจากนี้ ธปท.ยังได้จัดทำแบบทดสอบภาวะวิกฤต (Stress test) ด้านราคาน้ำมัน ซึ่งพบว่าหากราคาน้ำมันในตลาดดูไบ ไม่ปรับเพิ่มขึ้นจนมีค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปีสูงเกินกว่า 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะทำให้ค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อตลอดทั้งปีในปีนี้ไม่สูงไปกว่ากรอบเป้าหมายที่ธปท.กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเป้าเดิมที่ 3% หรือเป้าใหม่ที่ 4.5% แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในอดีตหากเกิดเหตุการณ์ราคาน้ำมันปรับขึ้นอย่างรุนแรง นักลงทุนส่วนใหญ่จะปรับพอร์ตการลงทุนโดยขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อถือเงินสด
ขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังเป็นเป็นเชิงบวก จากการที่ รมว. คลัง อียู อนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 และ Fitch ได้เพิ่มอันดับ ความน่าเชื่อถือกรีซเป็น BB- ส่วนจีน อินเดีย ได้เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยธนาคารกลางจีนทยอยปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ในขณะที่อัตราการขยายตัวเงินเฟ้อ WPI ของอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 6.95% และยังคงมีทิศทางชะลอลงจากปี 2011 อีกทั้ง ธนาคารกลางของอินเดียได้ลดสัดส่วนการกันสำรองเงินสด (CRR) ลงเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยตลาดคาดว่าทั้งสองประเทศจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้
“ตลาดหุ้นไทยยังคงมีศักยภาพทางเศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และทาง บลจ.ยูโอบี (ไทย)จำกัด เอง ได้มีกองทุนหุ้นไทยที่มีแนวทางการบริหารการลงทุนที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน ทั้งแบบเชิงรับ (Passive Management) คือ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เซ็ท 50 (UOBSET50) ที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET50 โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก 20 - 26 มีนาคม 2555 และการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุก (Active Management) อย่างเช่น กองทุนเปิด กำไรเพิ่มพูน (KPLUS), กองทุนเปิด กำไรเพิ่มพูน 2 (KPLUS2) และ กองทุนเปิด ไทยดรากอน (TDF) ที่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล และล่าสุดได้ประกาศปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดการจ่ายเงินปันผลในเร็วๆ นี้” นายวนา กล่าว
