กลุ่มอลิอันซ์ ชี้ตลาดเอเชียแปซิฟิกสุดแจ่ม คาดปี 2030 มูลค่าธุรกิจประกันชีวิตโตเป็นครึ่งหนึ่งของตลาดโลก พร้อมโชว์ผลงานปี 54 กวาดรายได้รวมกว่า 3 ล้านล้านบาท ระบุตลาดอินโดนีเซีย มาเล ไทย มีลูกค้าเพิ่มกว่า 30% แตะ 4.7 ล้านรายในปัจจุบัน
สำนักงานภูมิภาคในเอเชียแปซิฟิกของกลุ่มอลิอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำปี 2554 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตอย่างมั่นคงในธุรกิจประกันภัยเพื่อรายย่อยและการพาณิชย์ แม้จะเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ท้าทาย ระบุรายได้รวมอยู่ที่ 7.3 พันล้านยูโร (301.78 พันล้านบาท) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ทำได้ 9.2 พันล้านยูโร (380.33 พันล้านบาท) ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 170 ล้านยูโร (7.03 พันล้านบาท) เมื่อเทียบกับ 337 ล้านยูโร (13.93 พันล้านบาท) ที่ทำได้ในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่อลิอันซ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้สูงที่สุด
โดยรวมแล้ว รายได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 19% มาอยู่ที่ 1.8 พันล้านยูโร (74.41 พันล้านบาท) ผลกำไรจากการดำเนินงานในประเทศเหล่านี้เติบโต 8% ขึ้นมาแตะ 133 ล้านยูโร (5.50 พันล้านบาท) ส่งผลให้อลิอันซ์เดินหน้าต่อไปบนเส้นทางของการเติบโต ทั้งนี้รายได้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของอลิอันซ์ในภูมิภาคนี้เติบโตเกือบเป็นสองเท่า โดยมีอัตราการเติบโตรายปีอยู่ที่ 23.2% ในขณะเดียวกันจำนวนลูกค้าในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียและประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 30% มาอยู่ที่ 4.7 ล้านราย
นายเดวิด ฟรีด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานภูมิภาคของอลิอันซ์ในเอเชียแปซิฟิก (David Fried, regional CEO of Allianz Asia Pacific) กล่าวว่า เราจะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทุกช่องทางการขายในทุกตลาดที่เราเลือก โดยมุ่งเป้าไปที่การเติบโตของผลกำไรที่แข็งแกร่งและการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจของเรา อนาคตธุรกิจยังคงมีแนวโน้มที่สดใส วันนี้ตลาดเกิดใหม่มีสัดส่วนเท่ากับหนึ่งในสามของมูลค่าตลาดประกันทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) มูลค่าของตลาดเกิดใหม่จะกลายเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดโลก โดยที่ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีสัดส่วนที่ใหญ่มากสำหรับการเติบโตนี้
“ด้วยความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น และประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มจำนวนขึ้น ประกันชีวิตที่คุ้มครองผู้สูงอายุจะเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมมองของความเป็นจริงที่ว่า การถือครองกรมธรรม์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ”
สำนักงานภูมิภาคในเอเชียแปซิฟิกของกลุ่มอลิอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำปี 2554 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตอย่างมั่นคงในธุรกิจประกันภัยเพื่อรายย่อยและการพาณิชย์ แม้จะเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ท้าทาย ระบุรายได้รวมอยู่ที่ 7.3 พันล้านยูโร (301.78 พันล้านบาท) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ทำได้ 9.2 พันล้านยูโร (380.33 พันล้านบาท) ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 170 ล้านยูโร (7.03 พันล้านบาท) เมื่อเทียบกับ 337 ล้านยูโร (13.93 พันล้านบาท) ที่ทำได้ในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่อลิอันซ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้สูงที่สุด
โดยรวมแล้ว รายได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 19% มาอยู่ที่ 1.8 พันล้านยูโร (74.41 พันล้านบาท) ผลกำไรจากการดำเนินงานในประเทศเหล่านี้เติบโต 8% ขึ้นมาแตะ 133 ล้านยูโร (5.50 พันล้านบาท) ส่งผลให้อลิอันซ์เดินหน้าต่อไปบนเส้นทางของการเติบโต ทั้งนี้รายได้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของอลิอันซ์ในภูมิภาคนี้เติบโตเกือบเป็นสองเท่า โดยมีอัตราการเติบโตรายปีอยู่ที่ 23.2% ในขณะเดียวกันจำนวนลูกค้าในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียและประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 30% มาอยู่ที่ 4.7 ล้านราย
นายเดวิด ฟรีด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานภูมิภาคของอลิอันซ์ในเอเชียแปซิฟิก (David Fried, regional CEO of Allianz Asia Pacific) กล่าวว่า เราจะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทุกช่องทางการขายในทุกตลาดที่เราเลือก โดยมุ่งเป้าไปที่การเติบโตของผลกำไรที่แข็งแกร่งและการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจของเรา อนาคตธุรกิจยังคงมีแนวโน้มที่สดใส วันนี้ตลาดเกิดใหม่มีสัดส่วนเท่ากับหนึ่งในสามของมูลค่าตลาดประกันทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) มูลค่าของตลาดเกิดใหม่จะกลายเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดโลก โดยที่ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีสัดส่วนที่ใหญ่มากสำหรับการเติบโตนี้
“ด้วยความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น และประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มจำนวนขึ้น ประกันชีวิตที่คุ้มครองผู้สูงอายุจะเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมมองของความเป็นจริงที่ว่า การถือครองกรมธรรม์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ”
