ASTVผู้จัดการรรายวัน-นักวิเคราะห์กองทุนรวมแนะนักลงทุนลุยกองทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ ชูกองทุน"อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ ฟันด์" ของบลจ.อเบอร์ดีนน่าลงทุน พร้อมเตือนนักลงทุนที่จะนำเงินมาลงทุนรอบใหม่ในสินทรัพย์เสี่ยงควรระมัดระวังมากขึ้น
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กล่าวว่า ระยะสั้นตลาดกลับมามีความเชื่อมั่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อกรีซสามารถผ่านข้อตกลงมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อขอรับความช่วยเหลือทางการเงินได้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สถานการณ์กลับมาสู่แนวทางการแก้ปัญหาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราคาดว่าระยะสั้นราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจะตอบรับข่าวดีดังกล่าวหลังจากร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตามราคาสินทรัพย์เสี่ยงช่วงที่ผ่านมาตอบรับคาดการณ์ว่ากรีซจะได้การช่วยเหลือไปพอสมควรแล้ว ทำให้อาจจะยังปรับขึ้นได้ไม่มากนัก คงต้องรอปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาเสริม โดยรวมแล้วสถานการณ์ยังเหมือนเดิมปัจจัยเสี่ยงในระยะกลางและยาวยังคงมีอยู่จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่กรีซเองยังต้องพิสูจน์ว่าสามารถปฏิบัติตามแผนรัดเข็มขัดให้ได้ด้วย ดังนั้นการเก็งกำไรระยะสั้นด้วยกองทุนรวมอาจไม่เหมาะสมในช่วงที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงรายวัน
ขณะที่ระยะกลางถึงยาว เราได้แนะนำให้เริ่มพิจารณาทยอยลดพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไปแล้ว และเรายังคงคำแนะนำเดิมต่อไป โดยมองว่าราคาสินทรัพย์เสี่ยงยิ่งสูงเท่าไหร่ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้น สำหรับเงินใหม่ที่จะนำมาลงทุนควรพิจารณาอย่างระมัดระวัง แนะนำพักเงินกองทุนตลาดเงินไปก่อน กองทุนตลาดเงินที่แนะนำคือPCASH ของ บลจ. ฟิลลิป ตามเดิม เพื่อรอจังหวะกลับเข้าสะสมกองทุนรวมเพื่อการลงทุนระยะยาวเมื่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงมีการปรับตัวลดลง โดยเรายังคงแนะนำกองทุนรวมที่ลงทุนเน้นไปภูมิภาคตลาดเกิดใหม่เป็นหลัก อย่างเช่นกองทุน ABAPAC( Aberdeen Asia Pacific ex Japan) และ T-Global Bond ของ บลจ. ธนชาต
นายสานุพงศ์ กล่าวว่า ตลาดยังให้ความสนใจประเด็นการขอรับความช่วยเหลือรอบ 2 ของกรีซ ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา กรีซยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในส่วนของการประหยัดงบประมาณลงอีกจำนวน 300 ล้านยูโร ทำให้การเจรจาขอรับความช่วยเหลือยังต้องยืดเยื้อออกไปจนกว่ากรีซจะสามารถทำได้ตามข้อตกลงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนนี้ สร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุนว่ากรีซจะสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้หรือไม่ ทำให้ตลาดหุ้นในยุโรปสัปดาห์ที่แล้วกลับมาปรับตัวลดลง
ส่วนทางฝั่งสหรัฐ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐจะยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดแรงงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเกินคาด 15,000 ราย อยู่ที่ 358,000 ราย แต่แรงกดดันจากความไม่ชัดเจนของหนี้กรีซ อย่างไรก็ตามล่าสุดรัฐสภากรีซให้ความเห็นชอบร่างกฏหมายมาตรการรัดเข็มขัดในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้การปรับโครงสร้างหนี้ และการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบที่ 2 วงเงิน 1.3 แสนล้านยูโร ยังคงดำเนินต่อไปได้ตามที่ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ ส่งผลให้ระยะสั้นเราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นน่าจะดีดตัวกลับมารับข่าวดีดังกล่าว
สำหรับราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวนหลังได้รับข่าวดีจากที่ทาง FED ย้ำว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปจนถึงปี 2014 เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างเชื่องช้า แม้ว่าระยะสั้นตลาดแรงงานฟื้นตัวดีเกินคาด อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของทองคำยังคงมีจำกัด เนื่องจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐทำให้โอกาสที่จะมีมาตรการQE3 จึงลดลง ประกอบกับความไม่แน่นอนของการแก้ปัญหาหนี้กรีซ ดอลล่าร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในที่สุด
