พรรคร่วมกรีซบรรลุข้อตกลงหนี้ ตามข้อเรียกร้องเพิ่มเติมอียู-ไอเอ็มเอฟ

เอเอฟพี - พรรคร่วมรัฐบาลกรีซเห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัด ที่เรียกร้องเพิ่มเติมโดยสหภาพยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ หลังนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสของเอเธนส์เตือนว่าข้อตกลงหนี้ที่ล้มเหลว และการผิดนัดชำระหนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายจนไม่สามารถควบคุมได้

รัฐบาลผสมของกรีซเห็นชอบข้อตกลงว่าด้วยการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและตัดลดงบประมาณรายจ่ายอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น ตามที่อียู และไอเอ็มเอฟเรียกร้องเพิ่มเติม ในวันเดียวกับที่เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมประท้วงคัดค้านมาตรการดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในวันเริ่มต้นการผละงานประท้วงทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรีปาปาเดมอสออกคำเตือนที่เคร่งครัด หลังสมาชิกรัฐบาลผสม 6 คนลาออกเพื่อประท้วงการตัดลดงบประมาณรอบใหม่ ว่า การผิดนัดชำระหนี้อาจฉุดประเทศกรีซให้ดำดิ่งสู่หายนะ และก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการปะทุทางสังคม

"ไม่ช้าก็เร็ว กรีซจะถูกถอดออกจากยูโร นี่เป็นชั่วโมงแห่งความรับผิดชอบครั้งประวัติศาสตร์" ผู้นำกรีซกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี

สมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เหลือมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์เห็นชอบข้อตกลงหนี้ และมาตรการรัดข็มขัด ซึ่งจะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมีนาคมได้ ในเช้าวันนี้ (11) โดยสำนักข่าวเอเธนส์ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะถูกยื่นต่อรัฐสภาในวันอาทิตย์ (12) แต่ยังไม่มีการยืนยันจากโฆษกรัฐบาล

กรีซได้รับแรงกดดันจากพันธมิตรในกลุ่มยูโรโซนว่าจะต้องตกลงเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัดให้ได้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับเงินกู้เพิ่มเติม ที่ค้างคามาตั้งแต่เดือนตุลาคม ภายใต้วงเงิน 130,000 ล้านยูโร เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนดวันที่ 20 มีนาคม

กองทุนเงินช่วยเหลือนี้มีความจำเป็นสำหรับกรีซ ที่จะหลีกเลี่ยงการล้มละลายในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นวันที่พันธบัตรรัฐบาลกรีซครบกำหนดการไถ่ถอนคืน โดยจะต้องจ่ายเงินเกือบ 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม มาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งนัดหยุดงานทั่วประเทศเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ระบบการขนส่ง เช่น ระบบรถไฟใต้ดิน และรถไฟทั่วประเทศที่ดำเนินการโดยภาครัฐ เป็นอัมพาต ซึ่งส่งผลไปถึงการบริการสาธารณะอื่นๆ เช่น โรงเรียน และโรงพยาบาลด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการดังกล่าวยังก่อให้เกิดการต่อสู้ปะทะกันนอกรอบการชุมนุมประท้วงของสหภาพแรงงานด้วย โดยเยาวชนขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ ขณะที่ตำรวจก็โยนแก๊สน้ำตาตอบโต้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน เป็นตำวจ 8 นาย และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 6 ราย